ตำรวจ ปส. รวบแก็งค์ขนยาข้ามชาติ ยึดไอซ์บิ้กล็อตกว่า 1.5 ตัน เตรียมจ่อออกทะเล ที่ อ.ท่าใหม่ จันทบุรี
ตำรวจ ปส. รวบแก็งค์ขนยาข้ามชาติ ยึดไอซ์บิ้กล็อตกว่า 1.5 ตัน เตรียมจ่อออกทะเล ที่ อ.ท่าใหม่ จันทบุรี
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2567 เวลา 20.30 น. พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. ร่วมสั่งการและนำตำรวจ บก.ปส.3 และบก.ข่าวกรองยาเสพติด กว่า 80 นายร่วมติดตามสืบสวนสะกดรอย และจับกุมผู้ทั้งขบวนการรวมจำนวน 10 คนได้ที่ ท่าเรือของรีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และบริเวณใกล้เคียงได้พร้อมตรวจยึดของกลางได้แก่ ไอซ์บรรจุในห่อชาตราทุเรียน ใส่ในกระสอบ ๆ ละ 20 ห่อ พบอยู่บนเรือสปีดโบ้ทที่จอดเทียบท่า 23 กระสอบ พบในรถยนต์กะบะแบบตู้ทึบ ทะเบียน จ.ลพบุรี อีก 52 กระสอบ รวม 75 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,500 กก., รถยนต์เก๋ง จำนวน 4 คัน, รถยนต์กะบะ 2 คัน, อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก โดยจากการสืบสวนขยายผลของ บก.ข่าวกรองยาเสพติด แก็งค์ขนยาเสพติดข้ามชาตินี้จะได้ใช้เรือสปีดโบ้ทไปส่งยาเสพติดเรือสินค้ากลางทะเล ซึ่งเป็นเครือข่ายลูกน้องของกัปตันตุ้ยหรือนายชาญชัยฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลำเลียงไอซ์ 2,000 กก.ข้ามชาติ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2566 ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้หลบหนีไปประเทศเมียนมาและยังคงอยู่เบื้องหลังคอยสั่งการเครือข่ายของตน โดยจากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 นายอนันต์ฯ อายุ 50 ปี อาชีพไต้ก๊งเรือ มีพฤติการณ์ น่าเชื่อว่า เป็นหน.ทีมลำเลียงทางทะเลให้กัปตันตุ้ย กำลังเดินทางด้วยเครื่องบินจาก จ.สงขลามาที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับนางสาวศุภรัตน์ฯ อายุ 33 ปี แฟนสาว จึงได้จัดกำลังติดตาม จนพบว่าทั้งสองได้เช่ารถยนต์เก๋งเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปอ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จนกระทั่งเข้าไปที่รีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ซึ่งมีท่าเทียบเรือและอยู่ไม่ไกลจากจุดออกทะเลที่ปากน้ำแขมหนู และได้ไปพบกับนายจารุชัยฯ อายุ 51 ปี , นายนพเก้า ฯ อายุ 55 ปี ,นายแดง(นามสมมุติ )อายุ 16 ปี, ซึ่งเปิดเช่าห้องรออยู่ที่รีสอร์ทดังกล่าว ต่อมาพบเรือสปี๊ดโบ้ทสีขาวเข้ามาจอดเทียบท่า นายนพเก้าฯและพวกได้เข้าไปตรวจเช็คสภาพเรือให้พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าซุ่มดูและสะกดรอยติดตาม จนกระทั่งวันที่ 10 ส.ค.67 เวลาประมาณ 20.30 น. นายอนันต์ฯ,น.ส.ศุภรัตน์ฯและนายจารุชัย ฯได้พากันขับรถยนต์ตามกันไป แล้วพากันลงจากรถไปยืนรอที่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู ขณะเดียวกันที่รีสอร์ทเกาะนกใหญ่พบรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน ขับนำรถกะบะตู้ทึบเข้าไป จากนั้นรถยนต์กะบะได้ถอยไปใกล้รถสปีดโบ้ทที่จอดรอ ทุกคนช่วยกันขนลำเลียงกระสอบหนักจากรถยนต์กะบะตู้ทึบลงไปในเรือ เจ้าหน้าที่จึงเข้านำกำลังเข้าจับกุมนายนพเก้ากับพวกและกลุ่มคนที่ขับรถยนต์เก่งทั้งสองคันและรถกะบะดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือนายวัชระฯอายุ 44 ปี ,น.ส.ณัฐนราฯ อายุ 32 ปี(แฟนนายวัชระฯ) น.ส.นภธร ฯ อายุ 38 ปี และนายวิชาญฯ อายุ32ปี พร้อมของกลางดังกล่าว และจับกุมนายอนันต์ฯ กับพวกได้ที่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู จากการซักถามทราบว่านายวัชระฯและน.ส.ณัฐนรา เป็นหัวหน้าทีมลำเลียงไอซ์ทางบก โดยมี น.ส.นภธรฯ ช่วยนำทาง นายวิชาญฯ เป็นคนขับกะบะ และพากันไปรับไอซ์ของกลางจากริมถนนพระรามสอง พื้นที่ จ.สมุทรสาคร ตามคำสั่งของนายวัชระฯ ส่วนนายอนันต์ฯรับว่า เป็นคนจัดหาทีมคนขับเรือสปีดโบ้ท คือนายนพเก้าฯ และคนงานประจำเรือ 2 คน คือนายอลงกรณ์ฯและนายแดงฯ และนายอนันต์ฯกับนายจารุชัยฯ ออกมารอที่ปากน้ำแขมหนูเพื่อรอดูเมื่อเรือสปีดโบ้ทขนยาเสพติดออกทะเลแล้ว จึงจะโทรรายงานกับตันตุ้ยทราบ ส่วนนายจารุชัยฯมีหน้าที่หาท่าเทียบเรือและซื้อเรือสปีดโบ้ทและอุปกรณ์ต่างๆ โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 10 ดังกล่าวจะรับคำสั่งจากกัปตันตุ้ยฯ โดยจะได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท ได้มีการลำเลียงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ขณะจับกุม พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ฯ ผบช.ปส.ได้เดินทางเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจดูของกลางและซักถามผู้ต้องหาด้วยตนเอง และเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมได้พร้อมกันทั้งขบวนการลำเลียง ทั้งทีมลำเลียงทางบกและทางทะเล ขอเตือนผู้ที่คิดจะมาสู่ขบวนการเช่นนี้ ครั้งแรกนั้นอาจรอด แต่ครั้งต่อมาท่านมีโอกาสถูกจับกุมและโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ได้รับ