“อนุทิน” เข้ม รุดให้กำลังใจตำรวจและฝ่ายปกครอง พื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ หลังสกัดจับยาบ้าล๊อตใหญ่กว่า 7 ล้านเม็ด และขยายผลจับกุมผู้ค้าได้ทันควัน
“อนุทิน” เข้ม รุดให้กำลังใจตำรวจและฝ่ายปกครอง พื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ หลังสกัดจับยาบ้าล๊อตใหญ่กว่า 7 ล้านเม็ด และขยายผลจับกุมผู้ค้าได้ทันควัน
ตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติด โดยมุ่งกวาดล้างจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายใหญ่และรายย่อยให้หมดสิ้นไป ตำรวจภาค 4 ได้ร่วมบูรณาการกับภาคีเครือข่ายในภาคอีสานเหนือ ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ทหาร องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และหน่วยร่วมอื่นๆในพื้นที่ ในการปราบปราม กวาดล้างจับกุมยาเสพติด ตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
วันนี้(4 ก.ย.67) ที่ตำรวจภูธรภาค 4 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ 4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 , พล.ต.ต.วิญญู อำนวยทรัพย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหา 1 คน ยาบ้า 7,000,000 เม็ด พร้อมขยายผล เตรียมจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีกหลายราย
จากการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ สภ.บุ่งคล้า ภ.จว.บึงกาฬ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่เข้ามาในเขตพื้นที่ จึงร่วมกันเฝ้าระวังป้องกัน ต่อมาวันที่ 1 ก.ย.67 เวลาประมาณ 05.10 น. ขณะที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำลังร่วมกันตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณสามแยกทางเข้าบ้านหนองคังคา หมู่ 4 ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ พบรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1 ขฮ 73xx กรุงเทพมหานคร บรรทุกสิ่งของเต็มท้ายรถ จอดอยู่ริมถนนโดยไม่ดับเครื่องยนต์ จึงเข้าไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นคนขับรถได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ตรวจสอบท้ายกระบะพบกระสอบสีดำ 16 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ารวม 7,000,000 เม็ด พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 จึงได้สั่งการให้ ตำรวจ บก.สส.ภ.4 เร่งสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีให้ได้โดยเร็ว จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวคือ นายธีรเดช อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ หมู่ 3 ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นตำรวจ บก.สส.ภ.4 ได้ติดตามไปจับกุมตัวนายธีรเดช ได้ที่บริเวณหน้า บขส.เก่า ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 17.10 น.ของวันเดียวกัน(1 ก.ย.67) ขณะกำลังหลบหนี จากการสอบถามนายธีรเดช รับสารภาพว่า เป็นคนขับรถกระบะที่บรรทุกยาบ้าดังกล่าวจริง โดยมีการติดต่อซื้อขายกับเครือข่าย ผ่านช่องทางแมสเซนเจอร์ ชื่อ “พารวย พารวย” ก่อนจะไปลำเลียงยาบ้าทั้งหมดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมาส่งขายในประเทศไทย เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา นายธีรเดช ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” นำส่ง พงส.สภ.บุ้งคล้า ดำเนินคดี
จากการขยายผลเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหาให้ได้ขนยาเสพติดมาหลายครั้ง โดยมีผู้ร่วมขบวนการทั้งในประเทศไทยและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตำรวจภาค 4 จะได้สืบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี และยึดอายัดทรัพย์ของเครือข่ายทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป