กาฬสินธุ์ฆ่าฟันหัวหนุ่มวัย 30 ปีดับคาบ้านพัก คุมตัวผู้ต้องสงสัยสอบคาดหลอนยา
พบศพหนุ่มวัย 30 ปีชาวตำบลนาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ถูกฟันที่ศีรษะเสียชีวิตในบ้านพัก คาดฝีมือเพื่อนบ้านหลอนยาแล้วก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวหนุ่มวัย 35 ปี ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานชัด
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 กันยายน 2567 พ.ต.ต.นิวัฒน์ โมฆรัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านดงสวน หมู่ที่ 7 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ. กาฬสินธุ์ ว่า มีคนถูกฟันด้วยอาวุธมีด เสียชีวิตที่ บ้านดงสวน ม.7 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชา และออกตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ฑฤกร สอนวงษ์ ผกก.สภ.คำม่วง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลคำม่วง
โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ซึ่งกำลังก่อสร้างยังไม่เสร็จ อยู่หมู่ที่ 7 ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ พบศพนายพิทยาทร เอกพันธ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.3 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ถูกฟันด้วยอาวุธมีดที่ท้ายทอยนอนเสียชีวิตบริเวณแคร่ภายในบ้าน สภาพนุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ
จากการสอบถามพยานแวดล้อมเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพอทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ คือนายนุ (ขอสวงนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 35 ปี เนื่องจากก่อนเกิดเหตุช่วงคืนที่ผ่านมา นายนุ ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากบ้านที่พบศพพิทยาทรประมาณ 70 เมตร ลักษณะคล้ายคนหลอนยาพูดจาไม่รู้เรื่อง เดินถือมีดขอดายหญ้ามาถามเพื่อนบ้านว่า “แม่กูอยู่ไหน” ก่อนใช้สันมีดฟันรถยนต์ของเพื่อนบ้าน ซึ่งชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงไม่ได้คุยอะไรมาก และพากันเข้าบ้าน จากนั้นเห็นชายต้องสงสัยเดินถือมีดไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ กระทั่งช่วงเช้าพบนายพิทยาทรเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบ้านพักของนายนุ พบมีดขอดายหญ้าเปื้อนเลือดที่ถูกล้างทำความสะอาด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และเสื้อผ้าที่ซักแล้วแต่ยังมีคราบเลือดติดอยู่ในบ้าน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัวนายนุ มาสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าใคร และบอกให้เจ้าหน้าที่ว่าให้เอามีดและเสื้อผ้าที่มีคราบเลือดไปตรวจสอบเสียก่อน หากเป็นเลือดคนตายจริงถึงจะยอมรับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โดยผิดกฎหมาย และจะเร่งทำการสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลา และหากพบว่าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุจริง ก็จะมีการแจ้งข้อหาฆ่าคนตายเพิ่ม และดำเนินคดีตามฎหมายต่อไป