สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร”
วันนี้ (26 กันยายน 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณชลทิชา สัตยมานะ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และสถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ ที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนกรกฎาคม 2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น 10 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 50,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล
พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะโครงการอาสาตาจราจร เป็นกิจกรรมขับเคลื่อนความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่มีผลประจักษ์ชัด ได้รับความสนใจจากภาคประชาชน ร่วมส่งคลิปการกระทำผิดกฎจราจรมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มโครงการ ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ ยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100 คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน
ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน เรื่องการปรับเป็นพินัยที่เกี่ยวข้องกับการจราจร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายจราจรมีการเปลี่ยนแปลง 2 ประเด็นสำคัญ ประเด็นแรกคือ อายุความของใบสั่งจราจรเปลี่ยนแปลงจากเดิมอายุความ 1 ปี เปลี่ยนเป็นอายุความ 2 ปี มีผลกับใบสั่งฯที่ออกตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา ประเด็นที่สอง ผู้ที่ได้รับใบสั่งแล้วไม่ชำระเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องนำใบสั่งนั้นทำสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลทุกราย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทุกท่านปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟ้อง