ปทุมธานี เตรียมอ่วม มีท่วมแล้วบ้านเรือนและร้านอาหาร ผอ.กองช่างทต.บางขะแยงโดดเดี่ยวเตรียมรับมวลน้ำ
ปทุมธานี เตรียมอ่วม มีท่วมแล้วบ้านเรือนและร้านอาหาร ผอ.กองช่างทต.บางขะแยงโดดเดี่ยวเตรียมรับมวลน้ำ
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เทศบาลตำบลบางขะแยง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำเหนือ ของทรายวางเต็มจุดเสี่ยง หลังจากที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 10 จังหวัด ภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ปทุมธานี, นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำ 1 – 7 วันข้างหน้า คาดว่าในวันที่ 28 กันยายน 2567 ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน ประมาณ 2,000 – 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะมีการระบายเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันได ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พบน้ำท่วมขังบ้านเรือน จำนวน 17 หลังคาเรือน สาเหตุเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันทำให้มีน้ำท่วมขัง เป็นจุดพื้นที่ต่ำ รอบๆได้มีการถมดินสูงขึ้น จึงทำให้น้ำไม่มีทางไหลออก ขณะเดียวกันร้านอาหารชื่อดังริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดปทุมธานีได้ถูกน้ำท่วมขัง บางร้านต้องปิดหรือหยุดดำเนินการชั่วคราว ภาพรวมในพื้นที่ลุ่มของปทุมธานีตอนนี้พื้นดินรับน้ำไว้อิ่มตัวแล้ว มีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำทั่วไปหมด ซึ่งถ้าหากมีพายุลูกใหม่เข้ามาและฝนตกหนัก น้ำอาจจะล้นท่วมชุมชนหรือบ้านเรือนประชาชนหรือถนนหนทางได้ หน่วยงานราชการได้นำเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำออกเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาคาดว่าจะมีปริมาณมากกว่าปี 54 ที่ปทุมท่วมหนักทั้งจังหวัด
นางสุขาวดี คล้ายอ้น ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลบางขะแยง กล่าวว่า เทศบาลตำบลบางขะแยงมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยายาวถึง 4 กิโลเมตร มีสถานที่สำคัญมากมายตั้งแต่ วัดนำ้วนวัดชินฯ ถึงพระตำหนักจักรีบงกช ขณะนี้จุดเสี่ยงเราได้นำกระสอบทรายไปปิดกั้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม หากน้ำมาชาวบ้านริมน้ำจะแจ้งเข้ามาที่เทศบาลฯ เรากับชาวบ้านร่วมกันกรอกกระสอบทราย รวมถึงตั้งเวรยามเฝ้ากันทั้งคืนจนกว่าน้ำจะลดระดับลง ทั้งนี้เทศบาลเราเป็นหน่วยงานที่ยังเล็ก แต่ดูแลพื้นที่ยาวที่ติดแม่น้ำ จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานอื่นเพื่อช่วยเหลือเราด้วย ปีที่ผ่านมาทาง อบจ.ก็ช่วยเหลือทางเทศบาลเยอะ ซึ่งอดีตที่ผ่านมาเทศบาลเรามีท่าทรายอยู่ 2 ท่า แต่ทรายมาส่งให้เราไม่ทัน ที่เรารอดมาได้เพราะเราจึงขอสนับสนุนไปที่ อบจ. ได้ช่วยเหลือทรายมา จนทางเราสามารถควบคุมระดับน้ำได้ หากกระสอบทรายเราขาดก็สามารถสนับสนุนได้ตลอดเวลาเลย นอกจากนี้ยังประสานเอกชนมาบริจาคข้าวสารและอาหารกล่องเพื่อมาช่วยเหลือชาวบ้านและทีมงานตลอดจนจบภารกิจ
สำหรับบ้านที่จมน้ำ ทาง อบจ.ก็ให้เราเบิกโฟมกับเรือเพื่อให้ชาวบ้านใช้อาศัยหรือวางของเพื่อไม่ให้ของจมน้ำ หลังจากที่ได้รับแจ้งจาก ปภ.ทางเทศบาลได้เตรียมการณ์ป้องกันไว้เบื้องต้นโดยการเตรียมเครื่องสูบน้ำที่ประตูน้ำต่าง ๆ รวมถึงได้เรียงกระสอบทรายกั้นป้องกันระดับน้ำในจุดที่ต่ำหรือจุดที่น้ำจะท่วมแน่นอน หากมวลน้ำจะมาสูง 1-1.5 เมตร ตามที่ ปภ.แจ้ง ก็รู้สึกหนักใจเพราะเรายังไม่มีการประสานมาจากหน่วยงานไหนในการเตรียมพร้อมรับมือเราก็คงต้องอาศัยกำลังจากชาวบ้านช่วยเสริมกระสอบทราย ปีนี้เรายังไม่รู้จะประสานกับอบจ.ได้อย่างไร เนื่องจากทาง กกต.ยังไม่รับรอง ปีที่แล้ว นายก อบจ. ท่านลงมาดูด้วยตัวเองเลย พร้อมสอบถามแต่ละจุดว่าเป็นอย่างไรจำเป็นต้องเสริมอะไรอีกหรือไม่ หากพบว่าเครื่องสูบน้ำเสียก็ประสานงานแก้ไขได้ทันที ในปีนี้เรายังไม่ได้รายงานในส่วนที่ต้องการไปด้วย เพราะว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต หากถึงขั้นวิกฤตก็ตอบไม่ได้เพราะว่าทาง อบจ.ยังไม่มีผู้บริหาร ทำให้ทางเทศบาลฯก็เหมือนขาดที่พึ่งไป เพราะว่าปีที่ผ่านมาก็พึ่งท่านทุกอย่างเลย ทั้งแต่ทราย กระสอบ อุปกรณ์บรรเทาทุกข์ของประชาชน ถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง เราก็เข้าใจว่าทาง กกต.ทำงานเต็มที่ แต่เราก็อยากให้รวดเร็วเพราะว่าชาวบ้าน จะได้มีที่พึ่ง เนื่องจากมีผู้บริหารสั่งการได้รวดเร็ว
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน