ปราจีนบุรี-โรงเรียนนานาชาติอริสตานำนักเรียนซ้อมแผนเผชิญเหตุในรถบัส
ปราจีนบุรี-โรงเรียนนานาชาติอริสตานำนักเรียนซ้อมแผนเผชิญเหตุในรถบัส
วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่โรงเรียนนานาชาติอริสตา ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ครูสุธิดา สมาธิ ฝ่ายประสานงานแผนกประถมศึกษา นำครูและนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าฟังการบรรยายเรื่องการเอาตัวรอดเมื่อเจอเหตุภัยพิบัติ โดยมีการบรรยายให้รู้จักการใช้ถังดับเพลิงเบื้องต้น การใช้ค้อนสำหรับทุบกระจกอย่างถูกต้อง
จากนั้นได้นำนักเรียนซ้อมการเผชิญเหตุบนรถบัสนักเรียน หากเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องอพยพหนีออกทางไหนได้บ้าง นางคามิล อาร์เนโฮ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน และหัวหน้าฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า ที่โรงเรียนนานาชาติอริสตา ได้มีการจัดการเรียนการสอนที่ใกล้ชิดกับนักเรียนเป็นพิเศษอยู่แล้ว และในทุกๆสัปดาห์จะมีการสอนเรื่องการเอาตัวรอดและรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นแผ่นดินไหว ไฟไหม้ สำหรับรถบัส และรถตู้ที่ใช้ในการรับ-ส่งนักเรียนที่มีอยู่ได้มีการจัดให้มีครูดูแลนักเรียนประจำรถ และประจำจุดสำคัญ เช่นประตูฉุกเฉินจะมีครูนั่งประจำอยู่บริเวณนั้นเสมอ
พร้อมทั้งมีการให้ความรู้กับครู พนักงานขับรถ นักเรียนเรื่องการใช้รถรับ-ส่งอย่างปลอดภัย และมีการซักซ้อมเหตุอยู่เป็นประจำอยู่แล้วในทุกสัปดาห์ รวมถึงการให้ความรู้ในการเดินทางกับครอบครัว หรือการเดินทางไปทัศนศึกษา ต้องมีการป้องกันตนเองอย่างไรบ้าง ความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของโรงเรียนนี้อยู่แล้ว
สำหรับกิจกรรมการจัดทัศนศึกษายังถือว่ามีความสำคัญสำหรับนักเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่แตกต่างจากห้องเรียน เป็นการพัฒนาความคิด การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นภายนอกห้องเรียน แต่หากผู้ปกครองนักเรียนที่ไม่สามารถให้นักเรียนเดินทางไปทัศนศึกษา ทางครูผู้สอนต้องมีการเตรียมแผนการสอนเพื่อให้นักเรียนได้มีการเรียนรู้ในเนื้อหาใกล้เคียงกับนักเรียนที่ออกไปศึกษาภายนอกได้อย่างใกล้เคียงกัน สำหรับเหตุการณ์ที่มีการนำเสนอข่าว เรื่องรถบัสที่นำนักเรียนไปทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้จนทำให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิตนั้น ทางโรงเรียนจึงยิ่งเห็นความสำคัญในการสอนนักเรียนให้มีความรู้ในเรื่องการเอาตัวรอด หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และสุดท้ายนี้ทางโรงเรียนนานาชาติอริสตา ก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนักเรียน และครอบครัวของคุณครู ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งจากหัวใจ
นายสุวัจชัย เสนกรรหา อายุ 48 พนักงานขับรถของโรงเรียนกล่าวว่า รถบัสและรถตู้ของโรงเรียน มีระบบการดูแลรักษาเครื่องยนต์ ยางรถยนต์ ตามรอบการดูแล รวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันที่ติดตั้งภายในรถตามมาตรฐาน เช่นถังดับเพลิงบริเวณด้านหน้า และด้านหลัง ค้อนสำหรับทุบกระจกที่ติดตั้งทั่วทั้งตัวรถ หากอุปกรณ์ไม่ครบจะมีสัญญาณแจ้งเตือน รวมไปถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถจำนวน 6 ตัว เพื่อบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ โดยภาพจะถูกส่งไปบันทึกในระบบคลาวด์ และบันทึกการ์ดที่ติดตั้งภายในรถ โดยโรงเรียนสามารถดูภาพได้ตลอดการขับขี่ สำหรับประตูหนีไฟที่มีการติดตั้งที่รถบัส ภายในจะมีฝาปิดเพื่อป้องกันเด็กเปิดเอง แต่โดยปกติแล้วจะมีครูที่อยู่ประจำจุดนี้อยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วง แค่กดคันโยกลงประตูก็จะเปิดทันที และภายนอกรถบริเวณประตูฉุกเฉินก็จะมีช่องกระจกเพื่อทุบให้แตกและมีตัวกดเปิดประตูจากภายนอกได้ หากมีเหตุฉุกฉิน และประตูรถที่เป็นระบบอัตโนมัติ หากเครื่องยนต์ดับก็สามารถเปิดประตูได้ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งพนักงานขับรถและครู ได้มีการฝึกซ้อมการใช้งานอยู่เป็นประจำ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมสติหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
เด็กชายยุคุณธร พอดี (น้องมิกซ์) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กล่าวว่าที่โรงเรียนมีการอบรมเรื่องความปลอดภัยอยู่เสมอ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอาจจะทำให้มีอาการตกใจ แต่จะต้องตั้งสติ และตะโกนขอความช่วยเหลือ และช่วยเรียกเพื่อนอยู่ข้างเราเพื่อจะหนีเอาตัวรอด จากข่าวรถบัสไฟไหม้ทำให้ตนเองรู้สึกกลัว แต่ก็ยังอยากไปทัศนศึกษาเพื่อศึกษาความรู้จากสถานที่ใหม่ๆ
///////////ณัฐวัฒน์ กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี