มุกดาหาร-อุกอาจสุดๆ! ลักลอบพาดสายเน็ตบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน สปป.ลาว ใช้สร้างเครือข่ายหลอกคนไทย
มุกดาหาร-อุกอาจสุดๆ! ลักลอบพาดสายเน็ตบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน สปป.ลาว ใช้สร้างเครือข่ายหลอกคนไทย
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย และประธาน อนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการ เลขาธิการ กสทช. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กสทช. และตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ลักลอบนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการในไทย ลากสายข้ามสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) เข้าไปในนครไกรสอนพมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ระยะทาง 5 กิโลเมตร ทำให้เครือข่ายดังกล่าวสามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากเอื้อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยได้สะดวก เทียบเท่าการเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือเป็นการกระทำอย่างอุกอาจ โจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กสทช. สำนักงาน กสทช. เขต 25 จังหวัดนครพนม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม และกำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมให้เป็นไปตามกฎหมาย ในกรณีนี้ พบว่า มีบริษัทเอกชนราย หนึ่งซึ่งเป็นผู้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจาก กสทช. ในการประกอบกิจการได้เฉพาะภายในประเทศไทย โดยบริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์ ในการติดตั้งตู้ชุมสายอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดน ลักลอบพาดสายสัญญาณความเร็วสูงข้ามสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะ เขต) เพื่อลักลอบกระจายสัญญาณไปยังพื้นที่ สปป.ลาว
จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือพิเศษ ของ กสทช. พบว่าเครือข่ายนี้มีการลากสายลึกเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านไกลกว่า 5 กิโลเมตร ทำให้ เครือข่ายดังกล่าวสามารถกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ รองรับผู้ใช้งานกว่าหมื่นรายพร้อมกัน เอื้อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยได้สะดวก เทียบเท่าการเข้ามา ตั้งฐานในประเทศไทย พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ถือเป็นการกระทำอย่างอุกอาจ โจ่งแจ้งไม่เกรงกลัวกฎหมาย การกระทำในลักษณะดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับ อนุญาต อันเป็นความผิด ตามมาตรา 67 (3) แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ซึ่งต้อง ระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขัน ปราบปรามอย่างเด็ดขาดกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้าง ความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้มอบหมายให้ตนในฐานะผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง ผอ.ศปอส.ตร. เป็นผู้ดำเนินการจับกุมในวันนี้ โดยเป็นการทำงานร่วมกับ กสทช. ในการเดินหน้าสกัดกั้นไม่ให้ผู้กระทำผิดเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ได้โดยง่าย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อสายเคเบิล พร้อมกับเข้าตรวจค้นตู้ซิม ตรวจยึดซิมการ์ดไทยตำนวน 101,068 ซิม รวมทั้ง SIM BOX และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวนมาก
ขบวนการลักลอบพาดสายที่เราจับกุมได้ในวันนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มีความแตกต่างจากการกระทำความผิดในพื้นที่อื่นที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกลุ่มเนื่องจาก ที่ผ่านมาเป็นการลักลอบลากสายตามช่องทางธรรมชาติ หรือผ่านแม่น้ำ แต่ครั้งนี้เป็นการลากพาดสะพานข้ามแดนระหว่างประเทศ ศึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบ หลังจากนี้จะได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่มีพื้นที่รับผิดชอบติดแนวชานแดนประสานการทำงานกับ กสทช. ตรวจสอบการกระทำผิดในลักษณะนี้ หากตรวจพบให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดทุกราย พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแจ้งว่าสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่มีการลักลอบเชื่อมต่อเข้าไปใน สปป.ลาว มีปลายทางอยู่ที่บริเวณใกล้กับสะหวันเวกัส ซึ่งเป็นคาสิโนแห่งหนึ่งในแขวงสะหวันนะเขต
#ศูนย์ข่าวมุกดาหาร #สำนักงานกสทช.
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259777