‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ เผยความสำเร็จโครงการ ‘ดีอี’ จับมือ ‘Google’ ปกป้องคนไทย ด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยใน Google Play Protect
‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ เผยความสำเร็จโครงการ ‘ดีอี’ จับมือ ‘Google’ ปกป้องคนไทย ด้วยฟีเจอร์ความปลอดภัยใน Google Play Protect
วันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยผลลัพธ์โครงการความร่วมมือกับ Google ในการปกป้องคนไทยจากกลโกงออนไลน์ที่หลอกให้ติดตั้งมัลแวร์ด้วยฟีเจอร์ป้องกันกลโกงใหม่ใน Google Play Protect ที่ได้นำร่องการใช้งานในประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายนปี 2567 ที่ผ่านมาว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้ความสำคัญกับการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรงอย่างทันท่วงที ดังนั้นกระทรวงดีอี จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Google ในการเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับประชาชนชาวไทย ความร่วมมือครั้งนี้ได้เห็นผลลัพธ์ผ่านฟีเจอร์ Google Play Protect ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันในการตรวจจับและบล็อกแอปพลิเคชันที่อาจเป็นอันตรายก่อนที่จะติดตั้งลงในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน เช่น แอปที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมโทรศัพท์ หรือแอปดูดเงิน จากความเชี่ยวชาญของ Google รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งให้กับประชาชน พร้อมพาคนไทยก้าวสู่สังคมดิจิทัลที่ทั้งปลอดภัย ยั่งยืน และรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นคง
.
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวซึ่งกระทรวงดีอีได้ร่วมกับ Google นั้นเริ่มดำเนินการร่องการใช้งานในประเทศไทยในช่วงเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ฟีเจอร์ดังกล่าวได้ช่วยบล็อกความพยายามในการติดตั้งแอปที่มีความเสี่ยงไปแล้วกว่า 4.8 ล้านครั้งบนอุปกรณ์ Android กว่า 1 ล้านเครื่อง บล็อกแอปไปกว่า 41,000 รายการ ซึ่งรวมถึงแอปปลอมที่แอบอ้างเป็นแอปรับส่งข้อความ แอปเกม และแอปอีคอมเมิร์ซยอดนิยม
.
ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ใน Google Play Protect ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องผู้ใช้อุปกรณ์ Android จากกลลวงต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการบล็อกการติดตั้งแอปที่อาจมีความเสี่ยงซึ่งโหลดมาจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต (เช่น เว็บเบราว์เซอร์ แอปรับส่งข้อความ หรือโปรแกรมจัดการไฟล์) ที่อาจใช้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลละเอียดอ่อน ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้ในกลโกงทางการเงิน
.
ขณะที่ Eugene Liderman, Director of Android Security Strategy, Google กล่าวว่า “แม้ว่าฟีเจอร์ป้องกันกลโกงใหม่ใน Google Play Protect จะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่เราก็ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากมิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้จำเป็นต้องมีการคุ้มครองผู้บริโภคในเชิงรุก ซึ่ง Google ก็มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ Android ทุกคนได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีและปลอดภัย นอกจากนี้ การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่สำคัญ เช่น รัฐบาลไทยและนักพัฒนาแอป ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างระบบนิเวศของโทรศัพท์มือถือที่ปลอดภัยและทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยเสริมความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ให้กับทุกคน”
.
ด้าน แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่าง Google กับรัฐบาลไทยในการปกป้องคนไทยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดยกล่าวว่า “ดิฉันดีใจที่ได้เห็นความคืบหน้าของความร่วมมือระหว่าง Google และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในการต่อสู้กับกลลวงบนโลกออนไลน์ ท่ามกลางการระบาดของภัยการหลอกหลวงทางโทรศัพท์ในประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้คนไทยพร้อมรับมือกับกลโกงรูปแบบต่างๆ ซึ่ง Google มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อรับมือกับภัยไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนไทยทั่วประเทศ”
.
ความมุ่งมั่นในเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยมีคดีหลอกลวงและกลโกงทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าในปีที่ผ่านมาผู้คนจะตระหนักถึงกลโกงทางออนไลน์กันมากขึ้น แต่กลับพบว่า 7 ใน 10 ของผู้ใช้ออนไลน์ในประเทศไทยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางออนไลน์ ทั้งๆ ที่มีความมั่นใจว่าตนเองนั้นสามารถมองกลโกงออกและหลีกเลี่ยงได้
สำหรับกลไกการทำงานของฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ใน Google Play Protect นั้น หากผู้ใช้พยายามติดตั้งแอปที่อาจมีความเสี่ยงจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต (เช่น เว็บเบราว์เซอร์ แอปรับส่งข้อความ หรือโปรแกรมจัดการไฟล์) ที่อาจใช้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลละเอียดอ่อน ซึ่งมักจะถูกนำไปใช้ในกลโกงทางการเงิน Google Play Protect จะบล็อกการติดตั้งโดยอัตโนมัติ โดยจะตรวจสอบสิทธิ์ของแอปแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะสิทธิ์ 4 รายการนี้ ซึ่งได้แก่ การรับ SMS (RECEIVE_SMS) การอ่าน SMS (READ_SMS) การฟังการแจ้งเตือน (BIND_Notifications) และการช่วยเหลือพิเศษ (Accessibility) มิจฉาชีพมักจะใช้สิทธิ์เหล่านี้เพื่อดักจับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (One-time Password หรือ OTP) ที่ส่งมาทาง SMS หรือการแจ้งเตือน รวมทั้งแอบส่องเนื้อหาบนหน้าจอของผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้พยายามติดตั้งแอปที่อาจมีความเสี่ยงจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต และมีการขอใช้สิทธิ์เหล่านี้ Google Play Protect จะบล็อกการติดตั้งโดยอัตโนมัติ พร้อมแสดงคำอธิบายให้ผู้ใช้ทราบ
.
Google ยังคงยึดมั่นในพันธกิจ Leave No Thai Behind และเดินหน้าส่งเสริมศักยภาพของคนไทยด้วยการให้ความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาสามารถท่องโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย นอกจากนี้ Google ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศออนไลน์ที่ส่งเสริมนวัตกรรมและความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัว มีความปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น และให้ผู้ใช้ควบคุมประสบการณ์การใช้งานด้วยตนเอง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google รักษาความปลอดภัยให้กับผู้คนในทุกวันได้ที่ https://safety.google