ชุมพร – จับแล้วหนุ่มใหญ่ตะเวนลักชุดชั้นในนักเรียนหญิงตามห้องเช่า โดนรวบขณะก่อเหตุลักมือถือ ตำรวจตามยึดของกลางมากถึง 119 ชิ้น
ชุมพร – จับแล้วหนุ่มใหญ่ตะเวนลักชุดชั้นในนักเรียนหญิงตามห้องเช่า โดนรวบขณะก่อเหตุลักมือถือ ตำรวจตามยึดของกลางมากถึง 119 ชิ้น
จากกรณีที่มีผู้เสียหายโพสต์เฟซบุ๊ก ภาพจากกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี เข้าไปลักชุดชั้นในของนักเรียนหญิงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ตากไว้บนชั้นราวเหล็กหน้าห้องเช้า ไปจำนวนหลายตัว โดยคนร้ายก่อเหตุในช่วงที่นักเรียนหญิงไปเรียนหนังสือ และกล้องวงจรปิดที่เจ้าของห้องเช่าติดไว้ได้จับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดที่ซอยวัดสุบรรณนิมิต หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ตามข่าวที่เสนอนั้น
จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลทราบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2567 ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความเหตุลักทรัพย์เป็นชุดชั้นในและกางเกงใน จำนวน 5 คดี
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชุมพร ว่าที่ พ.ต.ต.ปิยพล ฉัตรภูมิ รรท.สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วยชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีดังกล่าวโดยเร็ว
จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ จนพบคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ ได้เข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าว ตามบ้านพัก ห้องเช่า ทีมีนักเรียน นักศึกษามาเช่าอยู่หลายครั้งจนเป็นที่เดือดร้อนไปทั่ว จนกระทั่งเวลา 17.00 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีบุคคลลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ภายในบ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 11 ตำบลบางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้พบตัวผู้ต้องสงสัย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตกใจและวิ่งหนี ตำรวจจึงไล่ตามและสามารถจับตัวไว้ได้ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอก(นามสมมุติ) อายุประมาณ 40 ปี ระหว่างจับกุมตัวพบโทรศัพท์มือถือที่ลักไป และพบชุดชั้นในจำนวนหนึ่งในบริเวณที่เกิดเหตุขณะจับกุม
จากการสอบถามนายเอกภพผู้ถูกจับกุม ให้การสารภาพว่าตนเองได้ก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือ และชุดชั้นในนั้นมาจริง และได้ออกตระเวนลักมาจำนวนหลายครั้งแล้วตามบริเวณห้องเช่าต่างๆ จากนั้นนายเอกภพ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ไปทำการตรวจยึดชุดชั้นในและกางเกงในที่ได้นำไปซุกซ่อนไว้ในป่าละเมาะใกล้พื้นที่ดังกล่าว รวมจำนวน 119 ชิ้น ซึ่งนายเอกภพบอกว่าได้นำของกลางดังกล่าวมาเพื่อสนองความใคร่ตนเอง และนายเอกภพยอมรับด้วยว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกันกับที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิด
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำประวัติ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.