สระบุรี/พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว นำ ป.ป.ท. ส.ป.ก ป.ป.ช ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว
สระบุรี/พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว นำ ป.ป.ท. ส.ป.ก ป.ป.ช ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว
วันที่ 12 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบไร่ภูนับดาว ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ท. ส.ป.ก ป.ป.ช เพื่อตรวจสอบไร่ภูนับดาวอีกครั้ง มีนายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการ ส.ป.ก.พร้อมนายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1เจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่
จากข้อมูลเดิมพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติของกรมป่าไม้ และมอบให้ ส.ป.ก.ดำเนินการแต่กลับพบว่ามีการนำไปออกส.ป.ก.4-01 จนมีการครอบครองที่ดินผิดกฎหมายจากกลุ่มนายทุนและอดีตข้าราชการในพื้นที่และมีความเชื่อมโยงกับคนสนิทของนักการเมือง
นายปรีชา ลิ้มถวิล รองเลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขอยืนยันว่าผืนป่าลำทองหลางและป่าลำพญากลาง สปก.ได้รับมอบมาตั้งแต่ปี 2525 เพราะว่ามีกฎกระทรวงฉบับที่ 985/2525 ถอนความเป็นป่าสงวน แล้วจะยกให้ ส.ป.ก.มาจัดปฏิรูปดังนั้นที่ตรงนี้จึงตกเป็นของ สปก.มาตั้งแต่ปี 2525 และก็เป็นหน้าที่ของสปก.ที่ต้องดูแลที่ดิน และตามที่มีการให้ข่าวว่ามีการปลูกป่าตั้งแต่ปี 2529 ถึง 2537 เนี่ยอันนี้ สปก.ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีการประสานงานเข้ามาปลูกในที่ สปก.หรือ ถ้ามีปลูกอยู่ตรงไหน หากป่าไม้มีข้อมูลก็นำมาแสดง ซึ่งทางส.ป.ก. ได้นำเอกสารราชการ พร้อมแผนที่ออกมายืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวที่ไร่ภูนับดาวตั้งอยู่ ถูกเพิกถอนออกจากการเป็นพื้นที่ป่าสงวนไปแล้ว และในส่วนของการสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ไร่ภูนับดาว ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก.หรือไม่ รองเลขาธิการ ส.ป.ก. บอกว่า จะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คณะทำงาน เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ส่วนนายกฤศกร สนิทศักดิ์ดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 1 ได้กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตรงนี้มีการออก ส.ป.ก.4-01 ให้กับชาวบ้านตั้งแต่ปี 2530 โดยมีการระบุชัดเจนว่าพื้นที่ด้านทิศตะวันตก รวมทั้งระวางของ ส.ป.ก. เองก็ระบุชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่าทั้งหมด อีกทั้งคำพิพากษาของศาลจังหวัดสระบุรีได้มีคำสั่งดำเนินคดีกับบุคคลที่ออก ส.ป.ก. ว่าบุกรุกสวนป่า ซึ่งผู้ที่ถูกดำเนินคดีรับสภาพทั้งหมด มีเพียงภรรยาปลัด อบต. ที่ต่อสู้ถึงศาลฎีกา และถูกจำคุก 6 เดือน ซึ่งพื้นที่แปลงดังกล่าวเป็นสวนป่าตั้งแต่ปี 2521 มีเนื้อที่ 6,640 ไร่ อยู่ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าฤทธิ์ ป่าลำทองหลาง และป่าลำพญากลาง ต่อมาปี 2525 มีการเพิกถอนป่าสงวนจำแนกให้ ส.ป.ก. แต่มีบันทึกข้อตกลงระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมป่าไม้ ว่าพื้นที่ที่เป็นสวนป่าต้องกลายเป็นภาระผูกพันธ์คืนให้ป่าไม้ โดยเมื่อปี 2541 มีการตรวจสอบพื้นที่ร่วมกันระหว่าง ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ โดยมีผู้ลงนามคืออดีตเลขาธิการ ส.ป.ก. ซึ่งในสมัยนั้นดำรงตำแหน่ง ส.ป.ก. จ.สระบุรี โดยมีการตรวจยึดและทำแผนที่คืนให้กับกรมป่าไม้เรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่าในสารบบมีการระบุชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนป่า ซึ่งไม่ทราบว่าออก ส.ป.ก. ได้อย่างไร
และเป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อมูลที่ ส.ป.ก. ชี้แจงว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นการปฏิรูปที่ดิน ไม่ใช่แปลงสวนป่า ทำให้ข้อมูลยังคงขัดแย้งกันอยู่กับทางป่าไม้และทาง ปปท.
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่ามีกลุ่มนายทุนกับข้าราชการในพื้นที่ ใช้ช่องว่างของกฎหมายนำที่ดิน ส.ป.ก. มาให้กับกลุ่มนายทุน และยังพบข้อมูลว่า กลุ่มบุคคลที่ได้กรรมสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 มีทั้งกลุ่มนายทุน เครือญาติ อดีตผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดสระบุรี อาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายทางอากาศ พยานบุคคล ในการดำเนินการเรื่องนี้ การสืบสวนพื้นที่ 600 ไร่ ได้ทำร่วมกับทาง ป.ป.ท.และ ป.ป.ช.มาระยะหนึ่งแล้วโดยจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย
/ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน