29/12/2024

จันทบุรี พล.ร.ต.ขวัญชัย ขำสม รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ค่ายตากสิน

S__12484913_0

จันทบุรี พล.ร.ต.ขวัญชัย ขำสม รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ค่ายตากสิน

 

 

28 ธันวาคม 2567
ที่ พระบรมราชานุสาวรีย์ ค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรี พล.ร.ต ขวัญชัย ขำสม รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินประธานในพิธี ได้นำข้าราชการทหาร ศาลจังหวัดจันทบุรี สำนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรี เทศบาลเมืองจันทบุรี นายอำเภอเมืองจันทบุรี
ตชด. ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เหล่าสมาชิกกาชาดจังหวัดจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสมาคม องค์กรภาคเอกชนและประชาชน ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะต่อพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ พร้อมทั้งกล่าวราชสดุดีเทิดพระเกียรติ และถวายเครื่องบวงสรวง สำหรับวันที่ 28 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2311

 

ในพิธีวันนี้ได้มีการฟ้อนรำ และได้มีการยิงสะดุดของทหาร ในวันสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ ซึ่งเมืองจันทบุรีเคยเป็นดินแดนที่รวมไพร่พลในการกอบกู้เอกราช สำหรับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระราชประวัติ ดังนี้ เดิมชื่อ สิน ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการศึกเป็นอย่างยิ่ง มีความมานะอดทน กล้าหาญ จึงเจริญในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ ตามลำดับ คือ เป็นพระยาตาก ได้เลื่อนเป็นพระยาวชิรปราการ สำเร็จราชการเมืองกำแพงเพชร ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ แต่ยังมิได้ไปครองเมือง พม่าก็ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยา จึงอยู่ช่วยราชการในเมืองหลวง ทรงบัญชาการสู้รบกับพม่าอย่างเข้มแข็ง พม่าต้องล่าถอยกลับไปหลายครา หลังจากนั้น 6 เดือน

 

พม่าได้ยกทัพมาล้อมกรุงศรีอยุธยาอีก พระยาวชิรปราการ คิดว่าครั้งนี้กรุงศรีอยุธยาคงไม่พ้นเงื้อมือพม่าเป็นแน่แท้ เนื่องจากบ้านเมืองระส่ำระสาย ไพร่พลอิดโรย ขาดเสบียงอาหาร และขาดศาสตราวุธ ประกอบกับขาดการประสานงานที่ดี ระหว่างแม่ทัพ นายกอง จึงรวบรวมสมัครพรรคพวก ได้ประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่า ออกจากกรุงศรีอยุธยา หวังไปรวบรวมไพร่พล เพื่อกอบกู้เอกราชคืนในภายหน้า โดยมีทหารเอกคู่ใจติดตามมาด้วย 4 ท่าน คือ หลวงราชเสน่หา หลวงพรหมเสนา พระยาพิชัยอาสา หรือพระยาพิชัยดาบหัก และพระเชียงเงิน พระราชกรณียกิจที่สำคัญ จนได้สมัญญาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระราชกรณียกิจการกอบกู้เอกราช พระองค์ทรงใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการรวบรวมไพร่พลที่เมืองจันทบุรี ได้ทหาร 5,000 คน ต่อเรือรบ 100 ลำ ทรงยกทัพไปต่อสู้กับพม่า ซึ่งตั้งอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้นธนบุรี ได้รับชัยชนะในที่สุด เป็นการกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมา

   

หลังจากเสียกรุงแก่พม่าเพียง 7 เดือน อาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพร้อมกันกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้น ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2311 ทรงพระนามว่าพระศรีสรรเพชญ์ หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่สมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ 15 ปี ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ ขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทางรัฐบาล อีกทั้งปวงประชาราษฎร์ทั้งหลาย จึงพากันถวายพระเกียรติ ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ ให้เป็นวันที่รำลึก “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ณ ค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรี

กิตติพงศ์ คงคาลัย ผู้สื่อข่าวสยามโฟกัสไทม์ จ. จันทบุรี