กาฬสินธุ์ เปิดคลิปอุทาหรณ์สองตายายขี่จยย.ยูเทิร์นหยุดชะงักกระบะพุ่งชนหวิดดับ (ชมคลิป)
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=CR6IPf0Y_4w[/embedyt]
กล้องวงจรปิดเทศบาลตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ จับภาพนาทีชีวิตสองตายายขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายจะกลับรถ แต่กลับหยุดชะงักกะทันหันจอดรถกลางช่องจราจรก่อนถูกรถกระบะส่งของที่ขับตรงมาชนอย่างจังร่างกระเด็นกว่า 10 เมตร โชคดีไม่เสียชีวิต คาดตกใจ ด้านเจ้าหน้าที่เทศบาลเผย จุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ผู้ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ฝากเป็นอุทาหรณ์ขับขี่อย่างมีสติ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เผยแพร่คลิป อุบัติเหตุรถกระบะส่งของพุ่งชนรถจักรยานยนต์ ตรงจุดกลับรถหน้าตลาดสดอำเภอยางตลาด ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลตำบลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลยางตลาด ได้บันทึกภาพช่วงเกิดอุบัติเหตุได้ชัดเจน เป็นภาพขณะรถจักรยานยนต์ ซึ่งคนขับขี่เป็นชาย และคนซ้อนท้ายเป็นหญิง ท่าทางเป็นผู้สูงอายุ พอขับขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ ทำท่าจะกลับรถและข้ามเลนเข้ามาถึงกลางเลนใน แต่แล้วกลับหยุดกะทันหัน ก่อนที่จะถูกรถกระบะส่งของที่ขับขี่ตรงมาเฉี่ยวชน ส่งผลให้คนขับและคนซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้ง 2 รายและรถจักรยานยนต์ กระเด็นจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 10 เมตร จากนั้นได้มีพลเมืองดีเข้าให้ความช่วยเหลือ และประสานกู้ชีพกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลยางตลาด โดยคลิปดังกล่าว มีความยาว 33 วินาที ระบุเหตุเกิดวันที่ 14 ม.ค.65 เวลา 12.00 น.
ทั้งนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเป็นวงกว้าง ในประเด็นที่ผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ราย เป็นผู้สูงอายุ ที่ขี่กลับรถแล้วเหมือนจะตกใจจึงจอดชะงักทำให้รถกระบะพุ่งชน รวมทั้งขับขี่โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และสถิติของการเกิดอุบัติเหตุตรงบริเวณดังกล่าว ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหายราย สร้างความสูญเสียชีวิตต่อชีวิตและทรัพย์สินหลายครั้ง
โดยสอบถาม ร.ต.อ.ชนาธิป ศรีสมบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด อ.ยางตลาด กล่าวว่า เหตุรถกระบะชนจักรยานยนต์ ที่บริเวณจุดกลับรถหน้าตลาดสดเทศบาลยางตลาด เส้นทางยางตลาด-กาฬสินธุ์ ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค.65 เวลาประมาณ 12.00 น. หลังได้รับแจ้งได้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมาคมกู้ภัยสามัคคีกตัญญูกาฬสินธุ์ กู้ภัยร่วมใจจุดยางตาด กู้ภัยวีอาร์และกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลตำบลยางตลาด ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ชายกับหญิง ชายชื่อนายเลื่อน ภูแล่นหยุด อายุ 75 ปี เป็นคนขับจักรยานยนต์ และหญิงชื่อนางมาลัย ภูแล่นหยุด อายุ 66 ปี คนซ้อนท้าย ทั้ง 2 เป็นสามีภรรยากัน ชาวบ้านหนองอิเฒ่า ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 499 พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหาย ล้มอยู่ช่องทางเดินรถ ห่างออกไปทางทิศตะวันออก 20 เมตร พบรถกระบะ อีซูซุ สีขาว ซึ่งเป็นรถกระบะส่งของ หมายเลขทะเบียน ผษ 6097 ขอนแก่น จอดชิดเกาะกลางถนน สภาพด้านหน้าซ้ายมีรอยเฉี่ยวชน พบนายจักริน การีชุม แสดงตนเป็นคนขับ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย กู้ชีพกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลยางตลาด ขณะที่นายจักรินคู่กรณี ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี พนักงานสอบสวนจะได้เรียกมาสอบปากคำ ถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านนายอิสระ ภูบรรทัด เจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลยางตลาด กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่านายเลื่อนและนางมาลัยผู้บาดเจ็บ กำลังจะไปทำธุระที่สำนักงานที่ดิน สาขายางตลาด ขณะที่รถกระบะคู่กรณีขับขี่มาจากทางสี่แยกไฟแดงยางตลาด เพื่อจะมุ่งหน้าไปตัวเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสันนิษฐานว่า ขณะที่นายเลื่อนกำลังจะกลับรถ แต่เนื่องจากช่วงนั้นมีรถยนต์หลายคันแล่นผ่านเกือบตลอดเวลา ประกอบกับสูงอายุ จึงทำให้การขับขี่ไม่เหมือนกับคนหนุ่มสาว และขาดความมั่นใจ พอจะกลับรถและมองเห็นรถกระบะคู่กรณีขับตรงมา จึงอาจจะตกใจและหยุดรถ หรือเครื่องยนต์รถอาจดับกลางคัน ซึ่งภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดนั้น เหมือนจอดรถนิ่งอยู่ เป็นสาเหตุถูกรถรถคู่กรณีเฉี่ยวชน ทั้งๆที่รถกระบะจะพยายามหักหลบ แต่หลบไม่พ้น โชคดีแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น และทราบว่าตอนนี้ทั้ง 2 คนพ้นขีดอันตรายแล้ว
นายอิสระกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม บริเวณจุดกลับรถดังกล่าว ซึ่งอยู่กลางตัวอำเภอ เป็นย่านชุมชนหน้าตลาดสด ตรงข้ามสำนักงานเทศบาล จะมีรถยนต์ชนิดต่างๆวิ่งตลอดวัน ที่ผ่านมาจึงเกิดอุบัตเหตุบ่อยครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ติดตั้งสัญญาณจราจรชั่วคราวในช่วงเวลาเร่งด่วน คือช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น จึงอยากฝากไปถึงผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ขับขี่มาตามถนนสายนี้ ได้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย โดยเฉพาะสูงอายุ ไม่ควรขับขี่ เนื่องจากสมรรถภาพในการขับขี่ลดลง เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย