อสังหาริมทรัพย์ในบังคลาเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยต่างๆ

ธากา/บังกลาเทศ – ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงสองปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศ
นับตั้งแต่รายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นครั้งล่าสุดและการขยายตัวของชนชั้นกลาง ความต้องการที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลให้การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในท้ายที่สุด

จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนเพียงห้าแห่งในปี 2513 จนถึงบริษัทมากกว่าหนึ่งพันรายที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยไม่นับธุรกิจที่ไม่ได้ลงทะเบียนจำนวนมาก
ซึ่ง REHAB Real Estate & Housing Association of Bangladesh, enlisted companies account for 879.
ตลาดเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปี 10% ในช่วงปี 2019-2020 ทำให้รายรับรวมของตลาดต่อปีอยู่ที่ Tk58, 00 crores
ตอนนี้ แนวคิดของอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อพาร์ตเมนต์ที่กำลังพัฒนาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองจำลอง ห้างสรรพสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้วย

สัดส่วนของภาคที่อยู่อาศัยต่อ GDP ในบังกลาเทศอยู่ที่ 7.96 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อุตสาหกรรมเชื่อมโยง เช่น MS bar, ซีเมนต์, อิฐ, ทราย, กระเบื้องเซรามิก, สี, และอุปกรณ์ตกแต่งและอุปกรณ์อื่นๆ มีส่วนสนับสนุนประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์
ประมาณการจากการสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดระบุว่าความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งหมดอยู่ที่ 0.8 ล้านหน่วยในปี 2020 และจะเป็น 1.14 ล้านหน่วยในปี 2030

ภาคส่วนนี้เพิ่มรายได้ของรัฐบาลโดยตรง (ในรูปของภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ) โดยเฉลี่ยเกือบ 5.0 พันล้านบีดีที
Kamal Mahmud รองประธาน REHEB กล่าวว่าหนังสือเวียนที่เผยแพร่เมื่อต้นปีงบประมาณ 2020-2021 โดยกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการลงทุนเงินไม่ต้องเสียภาษีในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นจุดเปลี่ยนของภาค
ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถขายแฟลต ชั้น และพื้นที่เชิงพาณิชย์จำนวนมากในขณะนั้นได้

“การริเริ่มของรัฐบาลในการลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นตัวเลขหลักเดียวเป็นความคิดริเริ่มที่กระตุ้นให้ภาคส่วนเติบโต นอกจากนี้ การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ภาษีการโอนที่ดิน ค่าอากรแสตมป์ ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลง และการแปลงเอกสารเกี่ยวกับที่ดินเป็นดิจิทัล เป็นสาเหตุสำคัญอื่นๆ ที่ทำให้ภาคที่อยู่อาศัยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว” เขากล่าวเสริม
จากการวิจัยของ REHAB ประมาณ Tk รายได้ที่ไม่ต้องเสียภาษีจำนวน 3,500 สิบล้านรูปีถูกลงทุนในภาคส่วนนี้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ราคาวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขาดแคลนอุปทานส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ คนวงในในอุตสาหกรรมกล่าว โดยเพิ่มโครงการหลายโครงการ ซึ่งกลับมาดำเนินต่อหลังจากการผ่อนคลายข้อจำกัดของโควิด-19 อาจต้องหยุดชะงักอีกครั้งเนื่องจาก สู่วิกฤตครั้งใหม่ ขัดขวางความพยายามฟื้นฟู