รวบหนุ่ม จยย.รับจ้างหัวร้อนถูกวินรุ่นพ่อตบหัวหาว่าแย่งลูกค้าใช้ปืนยิงดับคาซอยดังหัวหิน

เมื่อเวลา 00.45 น.วันที่ 29 มี.ค. ร.ต.อ.ประสงค์ จาตุรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในซอยห้าแยกหมาชะงัก ชุมชนเสละคาม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จ.ประจวบฯ ทราบ จากนั้นพร้อมด้วย พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.กานต์ บุญประคอง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รอง ผกก.สอบสวน แพทย์ รพ.หัวหิน พิสูจน์หลักฐานจังหวัด ชุดสืบสวน และมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานรุดไปยังที่เกิดเหตุเป็นแหล่งบาร์เบียร์ดัง

มีชาวบ้านยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งยิงกันสดๆร้อนๆ ตรงกลางแยกที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์ พบศพ นายธวัช หรือลุงพร นพรัตน์ อายุ 62 ปี อาชีพจักรยานยนตร์รับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 13 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่หน้าอกซ้ายและสะบักขวา กระสุนฝังใน รวม 2 นัด นอนจมกองเลือดในชุดมอเตอร์ไซค์รับจ้าง สวมหมวกกันน๊อก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กษพ 377 สุพรรณบุรี ของผู้ตายจอดอยู่ ก่อนนำศพส่งยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ให้แพทย์ผ่าอีกครั้ง

จากการตรวจสอบภาพกล้องวรจรปิดจุดเกิดเหตุ พบว่าขณะนายธวัชยืนรอให้บริการลูกค้าอยู่ตรงวินมอเตอร์ไซด์เพียงลำพัง ได้มีคนร้ายสวมเสื้อวินขี่รถจักรยนตร์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนตรงเข้าจอดพูดจากับนายธวัชได้ไม่ถึง 5 นาที ก่อนชักปืนยิงใส่ไม่ยั้งขี่หลบหนีไป จากการสอบสวนทราบตัวคนร้ายคือ นายทวีพร หรือรอด หรือเอ๋อ ลัดลอย อายุ 47 ปี อาชีพจักรยานยนตร์ อยู่บ้านเลขที่ 259/30 หมู่ 2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จึงตามไปรวบตัวได้ภายในห้องเช่า หัวนา 11 ซอยหัวหิน 112 ค้นในห้องพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก รถจักรยานยนตร์ที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนตร์อีก 4 คัน ซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐานนำตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายทวีพรให้การรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่าเป็นคนใช้ปืนยิงนายธวัชเสียชีวิตจริง สาเหตุโกรธแค้นที่นายธวัชเข้ามาด่าและตบศีรษะตนหลายทีหาว่าตนแย่งลูกค้าชาวต่างชาติที่นายธวัชรับส่งอยู่เป็นประจำก่อนหน้านี้ จึงขี่วนเห็นนายธวัชยืนอยู่ที่คิวรถเพียงคนเดียวจึงปรี่เข้าหาก่อนชักปืนยิงใส่ไม่ยั้งจนเสียชีวิต ขี่หลบหนีกลับเข้าห้องพักเปลี่ยนเสื้อผ้าทำทีไม่รู้เรื่องก่อนถูกตำรวจจับได้ในที่สุด จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมปืนของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.