ประจวบคีรีขันธ์-พ่อเมืองประจวบฯนำข้าราชการ-ประชาชนสรงน้ำพระและรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์
ประจวบคีรีขันธ์-พ่อเมืองประจวบฯนำข้าราชการ-ประชาชนสรงน้ำพระและรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์
เช้าวันที่ 10 เม.ย.ที่บริเวณถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก ชุมชนคุณธรรมหัวบ้าน อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วย นางฐิตยาภา เจริญเหรียญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสายวัฒนธรรมสู้ศึก และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง กิจกรรมตักบาตรเช้าวันอาทิตย์ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก โดยมีพระราชสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ พระเมธีคุณาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก และพระสงฆ์จำนวน 7 รูป ร่วมในพิธี จากนั้นได้ร่วมกันสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ สรงน้ำพระพุทธจอมมุนี (วัดธรรมิการามวรวิหาร) รูปหล่อพระสุเมธีวรคุณ (หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลักพระอารามหลวง) สรงน้ำพระสงฆ์ และรดน้ำขอพรผู้อาวุโสและผู้ว่าราชการจังหวัดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ หลังเสร็จพิธีแล้วนายเสถียรและคณะได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านอาจารย์ไก่และตลาดวัฒนธรรมด้วย
ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึกเป็นถนนที่ได้รับการประกาศและจัดตั้งโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม 1 ใน 11 แห่ง เป็นชุดแรกเมื่อปี 2560 ซึ่งก่อนจะเป็นถนนสายวัฒนธรรมนี้มีชุมชนเก่าแก่ มีประวัติอันยาวนานมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเรียกว่าชุมชน “เกาะหลัก” ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆของชาวประมงและเป็นที่พักเรือที่จะเดินทางไปทางใต้ และต่อมามีประวัติศาสตร์ที่สำคัญสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2484 เมื่อทหารญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกเพื่อเดินทัพต่อไปยังประเทศพม่าหรือเมียนมาในปัจจุบัน ณ อ่าวมะนาว กองบินน้อยที่ 5 หรือกองบิน 5 ในปัจจุบัน และที่อ่าวประจวบ แต่เนื่องจากการสื่อสารในยุคสมัยนั้นยังไม่รวดเร็ว ทหารอากาศของกองบินน้อยที่ 5 ข้าราชการ ประชาชน และยุวชนฯ ต่างร่วมกันต่อสู้อย่างสามารถ โดยคิดว่าทหารญี่ปุ่นจะโจมตีประเทศไทย จึงได้ต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นด้วยความกล้าหาญ จนกระทั่งข่าวจากทางกรุงเทพฯได้แจ้งและยอมให้ทหารญี่ปุ่นเดินทัพต่อไปได้ การต่อสู้จึงได้ยุติ แต่ยุทธการนี้ก็ได้สร้างวีรชนของชาวประจวบฯ ทั้งทหารหาญ ข้าราชการ ประชาชนและเยาวชนผู้กล้าเหล่านี้ได้ถูกจารึกไว้
ถนนที่มีความยาวตั้งแต่เขาช่องกระจกไปถึงชุมชนหัวบ้านและจรดทางเข้ากองบิน 5 แห่งนี้ได้ชื่อว่า “ถนนสู้ศึก” เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติและเป็นที่ประจักษ์มาจนถึงปัจจุบัน บนถนนสู้ศึกนี้มีที่ตั้งของของสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (ศาลหลักเมืองเก่า) บ้านเรือนของวีรชน และบ้านเก่าเล่าเรื่องที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและทรงคุณค่าควรแก่การเรียนรู้และท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีที่พักโรงแรม ร้านอาหาร และมีกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นอัตลักษณ์ของถนนสายวัฒนธรรม เช่น กิจกรรมตักบาตรเช้าวันอาทิตย์ การบรรเลงดนตรีไทยเดิมของคนในชุมชน กิจกรรมลีลาศ รำวงของชมรมลีลาศประจวบ รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย.
นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์/4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์0909944781