23/11/2024

ภายใต้การกดดันด้านหนี้สิน ยูกันดาอาจสูญเสียสนามบินนานาชาติ

ภายใต้การกดดันด้านหนี้สิน ยูกันดาอาจสูญเสียสนามบินนานาชาติ

 

โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา – ผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มเพิ่มความเป็นไปได้ที่ยูกันดาอาจสูญเสียสนามบินนานาชาติเอนเทบเบ้เนื่องจากหนี้ต่างประเทศ ตามที่สื่อแนะนำเหตุการณ์ ซึ่งชวนให้นึกถึงเมื่อท่าเรือฮัมบันโตตาในศรีลังกาสูญเสียเนื่องจากหนี้สิน จะนำไปสู่ ให้เสียสนามบินแก่ลูกหนี้
Pubudu Jayagoda รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของ Frontline Socialist Party (FSP) กล่าวว่าสนามบินนานาชาติ Entebbe กล่าวว่ายูกันดาอาจไม่สามารถชำระคืนเงินกู้จำนวน 207 ล้านดอลลาร์ที่ยืมมาจากจีนได้ทันเวลา กระจายข่าวลือระหว่างสื่อว่าสนามบินอาจเป็น สูญเสียในเวลาใดก็ตาม


อย่างไรก็ตาม ปักกิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างเด็ดขาด เขาอธิบายว่าในกรณีที่ไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้ สิ่งต่าง ๆ จะต้องถูกจ่ายเป็นค่าไถ่ และเสริมว่าจะมีการยึดทรัพย์สินในกรณีที่ไม่สามารถชำระเงินได้
Yasiru Ranaraja ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Belt and Road Initiative Sri Lanka (BRISL) รายงานว่าสื่อกำลังแนะนำว่าจีนจะเข้ายึดสนามบินยูกันดาหลังจากที่ปักกิ่งปฏิเสธข้อเสนอของกัมปาลาที่จะชำระหนี้คืนเนื่องจากสนามบินไม่ได้แสวงหากำไร อย่างที่มันเป็น
Jayagoda กล่าวว่าจีนมีแนวโน้มที่จะขอครอบครองสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงกลยุทธ์และมีความสำคัญสูงเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการอนุมัติเงินกู้แก่ประเทศหนึ่ง


“การควบคุมของเมืองท่าโคลัมโบอยู่กับจีน ท่าเทียบเรือด้านใต้ของท่าเรือโคลัมโบต้องถูกส่งมอบให้กับจีน และตอนนี้ที่ดินอันมีค่าบางส่วนในเมืองโคลัมโบได้ถูกโอนไปยังบริษัทที่ชื่อเซลันดิวาแล้ว มีรายงานว่าจีนจะยึดพื้นที่ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งพร้อมกับที่ดินอันมีค่าเจ็ดเอเคอร์ใกล้ท่าเรือ” จายาโกดากล่าว
เขากล่าวว่ามีการลงนามในข้อตกลงเพื่อส่งมอบศูนย์กักเก็บน้ำมันใกล้กับท่าเรือ Trincomalee ไปยังอินเดียเพื่อเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการได้รับเงินกู้จากจีนและอินเดีย


เขากล่าวถึงการคุกคามของการไม่สามารถชำระหนี้ในศรีลังกา ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงของการทำลายล้างอย่างใหญ่หลวงและความแปลกแยกของทรัพยากรของประเทศ ทรัพยากรสาธารณะ และทรัพย์สินสาธารณะ
Jayagoda กล่าวเสริมว่าต้องมีการหยุดการกู้ยืมและควรมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการตกอยู่ภายใต้กับดักหนี้โดยกล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับยูกันดาในวันนี้อาจเกิดขึ้นกับศรีลังกาในวันพรุ่งนี้”

 

ที่มา A24 News Agency

ข่าวที่น่าติดตาม