23/11/2024

บิ๊กรอย บิ๊กโจ๊ก บินด่วนสระแก้ว รับตัวคนไทยจากกัมพูชา หลังตำรวงไทย-กัมพูชา ประสานความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย

บิ๊กรอย บิ๊กโจ๊ก บินด่วนสระแก้ว รับตัวคนไทยจากกัมพูชา หลังตำรวงไทย-กัมพูชา ประสานความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย

 

*****กรณีเมื่อวันที่ 10-11 เม.ย.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร/รอง ผอ.ศพคส.ตร นำตำรวจไทยร่วมกับตำรวจกัมพูชาเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหลอกลงทุน จำนวน 68 คน จากกรุงพนมเปญ เมืองพรัสีหนุ และเมืองบาร์เวต ประเทศกัมพูชา โดยเหยื่อทั้งหมดถูกบังคับทำงานหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายหลายร้อยบาทต่อเดือนตามที่เป็นข่าวในสื่อโทรทัศน์และโชเชียวมีเดียนั้น


*****พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผอ.ศพตส.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เข้าพูดคุยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.อ.เน็ท สะเวิน ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการป้องกันการหลอกลวงคนไทยมาทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา รวมทั้งการนำคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือในรายล่าสุดกลับประเทศไทยโดยเร็วภายหลังจากประสานความร่วมมือและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศกัมพูขาแล้ว วันนี้ตำรวจประเทศกัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยทั้ง 68 คน กลับประเทศผ่านทางด่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะเร่งนำเหยื่อทั้งหมดเข้าสู่กระบวนตามมาตรการสาธารณสุข และดำเนินการคัดแยกเหยื่อในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญาข้ามชาติ ตั้งแต่ผู้โฆษณาหลอกลวงเหยื่อในสื่อโซเชียล ผู้นำพาเหยื่อหลบหนีตามช่องทางธรรมซาติ จนถึงนายทุนจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊งทั้งหมดยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง จนมาถึง จ.สระแก้ว และใช้การเดินเท้าผ่านป่าแนวตะเข็บชายแดนข้ามไปยังฝั่งประเทศกับพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่ตึกแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับกลุ่มนายทุนจีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกรุงพนมเปญ และเมืองพระสีหนุประเทศก้มพูชา และจะบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย หากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้าย ถูกกักขัง บางรายถูกขายต่อไปยังนายทุนจีนคนอื่นในราคา 3,000 ดอลลาร์ ซึ่งพวกตนพยายามขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยมาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย-กัมพูซา เข้าช่วยเหลือออกมาไต้อย่างปลอดภัย โดยยังมีคนไทยอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลายๆ เมืองอีกจำนวนมาก


***** พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยในวันนี้ยังได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางในการป้องกันไม่ให้คนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของคนไทยที่เดินทางกลับมาได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชนในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้มีการสั่งการในที่ประชุมให้มี การขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างรวดเร็วและเฉียบขาดในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเป็นการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถจังข้อมูลมายัง ศูนย์พิพักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน ๑๕๙๙ หรือ www.humantraificking.police.so.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/TICACbo@๖ หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการ ปราบปรามการกระทำผิดต่อไป


*****พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป) เป็น ผอ.ศพดส.ตร.พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รอง ผอ.ศพดส.ตร.(1)/หน.ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต ตร. (TICAC)โดยมี พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศกัมพูชา พ.ต.อ.รุ้ง ทองมนต์ ผกก.ตม. สระแก้ว พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและฝ่ายปกครอง


*****พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศกัมพูชากล่าวว่า ประสานงานได้ทุกสถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์ การหลอกลวงชาวไทยให้ลักลอบเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติที่ จ.สระแก้ว และถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือหลอกลวงให้ลงทุน ทำให้คนไทยถูกหลอกลวงแล้ว ให้ทำงานผิดกฎหมายถูกทำร้าย ถูกขายต่อไปยังจุดอื่น ถูกกักขัง หรือถูกเรียกค่าไถ่ การกระทำดังกล่าวประสานได้ ของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ในรูปแบบบังคับใช้แรงงานหรือบริการและเหตุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคล โดยการก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ถูกจัดให้เป็นวาระสำคัญระดันานาชาติและรัฐบาลไทยในฐานะสมาชิกของประชาคมโลกมีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามมาตรฐานสากล ในการนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการหลอกลวงชาวไทยไปบังคับใช้แรงงานโดยผิดกฎหมายซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์และการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองช่องทางพรมแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่ต่างให้ทำงานเป็นไปอย่างมประสิทธิภาพมากขึ้น