รวบหนุ่มเมืองกรุงสุดแสบ หลอกขายชุดตรวจ ATK ผ่านเฟซบุ๊ก รวมมูลค่าความเสียหายร่วมล้านบาท
รวบหนุ่มเมืองกรุงสุดแสบ หลอกขายชุดตรวจ ATK ผ่านเฟซบุ๊ก รวมมูลค่าความเสียหายร่วมล้านบาท
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส. สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกับ สภ.เสม็ด จว.ชลบุรี และ กก.1 บก.สส.ภ.2 จับกุม นายกรกรต อายุ 26 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.170/2565 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถคอนโดมิเนียมย่านแจ้งวัฒนา ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
พฤติการณ์การกระทำผิด กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้รู้จักกับนายกรกรต ผ่านเฟซบุ๊ก เพจขายอุปกรณ์เซฟตี้ By.First Safe และเคยติดต่อซื้อขายชุดพีพีอีกับนายกรกรตมาก่อนจำนวน 2 ครั้งเป็นเงินประมาณ 3,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 ผู้เสียหายได้ติดต่อซื้อชุดตรวจ เอทีเค จำนวน 2,500 ชุด ในราคาชุดละ 41 บาท รวมจำนวนเงิน 102,500 บาท โดยผู้เสียหายได้โอนเงินจากบัญชีตนเองไปยังบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชีนายกรกรต เป็นเงินจำนวน 102,500 บาท และนัดส่งสินค้าในวันเดียวกันเวลา 17.00 น. เมื่อถึงเวลานายกรกรต ได้ส่งหมายเลขพัสดุการส่งสินค้ามาให้ผู้เสียหาย แต่เมื่อผู้เสียหายได้ตรวจสอบดูก็ไม่มีการจัดส่งสินค้าตามหมายเลขที่แจ้ง จึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายกรกรต โดยนายกรกรต ก็ได้ขอผัดผ่อนส่งสินค้าไปเป็นวันที่ 30 มกราคม 2565 เมื่อถึงเวลานายกรกรต ได้ส่งใบส่งของปลอมมาให้ผู้เสียหายจนกระทั่งวันที่ 31 มกราคม 2565 ผู้เสียหายจึงได้ขอยกเลิกซื้อสินค้า และขอให้นายกรกรต โอนเงินคืน นายกรกรต แจ้งว่าจะโอนเงินคืนให้แต่ก็ไม่โอนคืนแต่อย่างใด จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด จว.ชลบุรี ต่อมาศาลจังหวัดชลบุรี ได้ออกหมายจับที่ จ.170/2565ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ให้จับตัวนายกรกรต ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่านายกรกรต ได้หลบหนีการจับกุมไปพักอาศัย
ที่คอนโดมิเนียมย่านแจ้งวัฒนา ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงได้ร่วมกันออกสืบสวนติดตามหาตัวนายกรกรต จนกระทั่งต่อมาได้พบตัวนายกรกรต จึงได้แสดงหมายจับพร้อมจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่านายกรกรต ยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี
ที่ 81/2565 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2565 ในความผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกงประชาชน” และยังมีผู้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีนายกรกรต ความผิดในลักษณะเดียวกัน อีกหลายพื้นที่ดังต่อไปนี้ ตำรวจนครบาล สน.คันนายาว สน.สายไหม สน.เตาปูน สน.บางซื่อ ตำรวจภูธรภาค ๒ ภาค ๓ ภาค ๗ และภาค ๘ รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง
