7 ชนิดกีฬาตั้งธงคว้าเพิ่ม 18 ทอง “มีท เดอะ เพรส” ซีเกมส์ รอบ 3

7 ชนิดกีฬาตั้งธงคว้าเพิ่ม 18 ทอง “มีท เดอะ เพรส” ซีเกมส์ รอบ 3

7 สมาคมกีฬา ประกาศตั้งธงคว้าอีก 18 เหรียญทอง ในการแถลงความพร้อมงาน “มีท เดอะ เพรส” กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมวยไทยฯ และตะกร้อ ตั้งเป้า 5 ทอง, เพาะกาย 3 ทอง, โบว์ลิ่ง แฮนด์บอล กับ วอลเลย์บอล 2 ทอง และหมากรุกสากล 1 ทองแดง รวม 3 รอบ ทัพไทยวางเป้าคว้า 53 เหรียญทอง ด้าน “ธนา ไชยประสิทธิ์” แม่ทัพไทย เตือนระวังเรื่องโควิด-19 ยอมรับมีความกังวลมาตรฐานชุดตรวจ ATK ของเจ้าภาพที่จะใช้จะตรวจนักกีฬาทุกชาติที่เข้าร่วม กำชับทีมและนักกีฬาพกชุดตรวจสำรองติดตัว เผื่อใช้ตรวจซ้ำให้แน่ใจ หากดวงแตกพบว่าติดเชื้อจากการตรวจของเจ้าภาพ

นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เป็นประธานแถลงข่าว “มีท เดอะ เพรส” กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รอบที่ 3 เมื่อวันที่ 22 เม.ย.65 ที่ห้องประชุม 222 ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อประเมินโอกาสและความหวังในการคว้าเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม โดยมี นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และอีก 7 สมาคมกีฬา เข้าร่วมแถลงความพร้อม

ประเดิมแถลงความพร้อมด้วย นายจิรภาคย์ ปิติโรจน์จิรธร ผู้ฝึสอนของสมาคมกีฬาหมากรุกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ มีแข่งขัน 3 ประเภท คือ เกมมาตรฐาน, เกมจำกัดเวลา และเกมเร็ว โดยที่ผ่านมา นักกีฬาได้ฝึกซ้อมออนไลน์ เเม้มีสถานการณ์โควิด-19 และเพิ่งมาซ้อมร่วมกันเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับคู่แข่งสำคัญ มองไปที่เวียดนาม ที่แข็งเเกร่งมาก ๆ หลายคนเป็นผู้เล่นติดระดับโลก ส่วนไทยรอบนี้ ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่หลายราย และขอตั้งเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทองแดง เป็นอย่างน้อย ในประเภทสแตนดาร์ด

ด้าน นายธวัช กมุทพงษ์พาณิช ผู้จัดการทีมเซปักตะกร้อทีมชาย พร้อมด้วย นายไพโรจน์ อาชารุ่งโรจน์ ผู้จัดการเซปักตะกร้อทีมหญิงทีมชาติไทย เผยว่า ซีเกมส์หนนี้ ตะกร้อมีชิงชัย 8 อีเวนต์ ไทยได้สิทธิ์ส่ง 6 อีเวนต์ ส่วนเจ้าภาพส่งได้ครบ คาดการณ์ว่าเวียดนาม น่าจะไปหวังเหรียญที่ไทยไม่ได้แข่ง โดย 6 รายการที่ไทยส่ง ประกอบด้วย ทีมชุดชาย-หญิง, ทีมเดี่ยวชาย-หญิง และ ทีม 4 คนชาย-หญิง โดยนักกีฬากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คือ ตัวเก๋าประสบการณ์สูง ความหวังที่ตั้งเป้าไว้ ถ้าเป็นช่วงสถานการณ์ปกติลงแข่ง 6 รายการ ไทยที่เป็นเต็งหนึ่งก็จะกวาดได้หมด แต่ในครั้งนี้ก็เผื่ออุบัติเหตุ จึงวางไว้ที่ 5 เหรียญทองก่อน

ขณะที่ นายวิวัฒน์ชัย รัตนรัต อุปนายกสมาคมกีฬาโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เผยว่า ซีเกมส์ครั้งที่แล้วที่โบว์ลิ่งมีชิง 11 เหรียญทอง หนนี้เหลือแค่ 6 เหรียญทอง จากชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่, ทีม 4 คนชาย และ ทีม 4 คนหญิง ความพร้อมของทีมตอนนี้ ต้องบอกว่าโบว์ลิ่งเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ซ้อมกันยาก เพราะด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่โบว์ลิ่งเป็นกีฬาที่แข่งขันในสถานที่ปิดต้องอยู่ในที่ร่ม ยังดีที่ช่วงหลังมานี้สมาคมฯได้มีจัดรายการชิงแชมป์ประเทศไทย 3 สนามให้เหล่านักกีฬาได้เรียกฟอร์มเรียกความฟิตกลับมา หนนี้ทีมส่งนักกีฬารวม 8 คน แบ่งเป็นชาย 4 หญิง 4 ตั้งเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทอง

ด้าน ดร.ชาญณรงค์ สุหงษา อุปนายกสมาคมกีฬาแฮนด์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.วีระ กัจฉปคีรินทร์ ประชาสัมพันธ์สมาคมฯ ร่วมกันเปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กีฬาซีเกมส์บรรจุกีฬาแฮนด์บอลครบทั้ง 4 อีเวนต์ ได้แก่ แฮนด์บอลในร่มชาย-หญิง และ แฮนด์บอลชายหาดชาย-หญิง ทว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ล่าสุดทางฝ่ายจัดฯ ยกเลิกประเภทชายหาดหญิงออกไป เพราะเหลือแค่ไทยและเวียดนามที่เข้าร่วม ส่วนทีมชายหาดชายแชมป์เก่า ที่เก็บตัวซ้อมมา 1 ปี มั่นใจว่าจะเอาเหรียญทองครองมาได้

ดร.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า แฮนด์บอลในร่มทีมหญิง เก็บตัวซ้อมมาเป็นเวลา 6 เดือนที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ ได้รับการสนับสนุนจากประเทศเกาหลีใต้ส่งผู้ฝึกสอนมากฝีมือเข้ามาช่วย ทำให้นักกีฬาได้เรื่องของพละกำลังและระเบียบวินัยเต็มร้อย ดูแล้วทีมในร่มหญิงของไทยก็ไม่น่าจะพลาดเหรียญทองเช่นกัน ส่วนประเภทในร่มชายเก็บตัวมา 6 เดือนที่ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี ก็พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปแข่งขัน คู่แข่งสำคัญของทั้ง 3 ทีมของไทยดูแล้วคงเป็นเวียดนามเจ้าภาพ แต่ก็ยังมั่นใจว่าทั้ง 3 ทีมของไทยจะสามารถเข้าชิงชนะเลิศได้หมด แต่น่าจะได้ 2 เหรียญทองจากทีมชายหาดชายและทีมในร่มหญิง

ส่วน นายถาวร วัฒนกุล กรรมการบริหารสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ เผยว่า มวยไทย จัดชิงชัยทั้งสิ้น 11 เหรียญทอง ไทยส่งครบทุกรุ่น ประกอบด้วย ชาย 5 รุ่น, หญิง 5 รุ่น และ ประเภทไหว้ครูหญิงคู่ เวลานี้นักกีฬามีความฟิตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พร้อมเดินทางไปแข่งขัน และแม้มวยไทยจะเป็นกีฬาประจำชาติแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอย่างในอดีตแล้ว เพราะชาติเพื่อนบ้านของเรา พัฒนาขึ้นมาและมีโอกาสสอดแทรกขึ้นมาคว้าเหรียญ ไม่ว่าจะเป็น เมียนมา หรือ ลาว และจาก 11 เหรียญทองที่จัดชิงชัยทางสมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ 5 เหรียญทองบวก

ขณะที่ นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายสมาคมกีฬาเพาะกายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เพาะกายเป็นกีฬาหมวดที่ 3 กลุ่มพื้นบ้าน มีจัดบ้างไม่มีจัดบ้างเเล้วแต่เจ้าภาพ ล่าสุดที่เมียนมา ปี 2013 เราได้ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง หนนี้จะมีอีเวนท์ 10 รุ่น มี 8 ประเทศเข้าร่วม โดย ไทย เวียดนาม เมียนมา คือ 3 ชาติที่ส่งครบทั้ง 10 รุ่น โดยความหวังของทีมไทย อยู่ที่ 3 เหรียญทอง ช่วงเวลาที่เหลือและช่วงเดินทางไปแข่งขัน กังวลอย่างเดียว คือ เรื่องโควิด-19 ดังนั้นสมาคมจึงกำชับนักกีฬาและสต๊าฟให้ระมัดระวังตัวเองมากที่สุด

ปิดท้ายที่ วอลเลย์บอล นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วอลเลย์บอลมีชิงชัย 4 อีเวนท์ คือในร่มชายกับหญิง และชายหาดชายกับหญิง ถึงเวลานี้นักกีฬาพร้อมที่จะสู้ศึกแล้ว โดยทีมชายหาดไทย ได้ฝึกซ้อมและลงแข่งระดับนานาชาติมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เรื่องนักกีฬาจะร้างสนาม จึงไม่น่าห่วง ส่วนทีมหญิงกับชายในร่ม เก็บตัวกันมาตั้งแต่หลังจบศึกไทยแลนด์ลีก เมื่อปลายเดือน มี.ค. เป็นต้นมา ทีมหญิงรอบนี้จะไม่มีกลุ่มผู้เล่นชุด 7 เซียน แต่ก็จะมีตัวประสบการณ์สูงในไทย และตัวจากที่ไปเล่นลีกต่างแดน จากทั้งตุรกี, ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย กลับมาร่วมทีมครบเซต โดยรวมตั้งเป้า 2 เหรียญทอง จากทีมหญิงในร่มและชายหาดทีมหญิง และก็หวังลึก ๆ อีก 1 เหรียญทอง จากทีมชายในร่ม ส่วนชายหาดชายไทย ยังเป็นรองอินโดนีเซีย ขอตั้งเป้าไว้ที่รอบชิงฯ เป็นอย่างน้อย

สรุปความคาดหวังของ 7 สมาคมกีฬา ในงานแถลงข่าว “มีท เดอะ เพรส” ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รอบที่ 3 ทั้ง 7 สมาคมกีฬา ตั้งความหวังรวม 18 เหรียญทอง แบ่งเป็น หมากรุกสากล 1 เหรียญทองแดง, ตะกร้อ 5 เหรียญทอง, โบว์ลิ่ง 1 เหรียญทอง, แฮนด์บอล 2 เหรียญทอง, เพาะกาย 3 เหรียญทอง, มวยไทยสมัครเล่น 5 เหรียญทอง และ วอลเลย์บอล 2 เหรียญทอง รวมมีทเดอะเพรส ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทั้ง 3 หน ทัพไทยมีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลแล้วทั้งสิ้น 53 เหรียญทอง

ด้าน นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เปิดเผยว่า ในเรื่องมาตรการโควิด-19 เจ้าภาพแจ้งว่าทุกคนที่เข้าร่วมต้องมีผลตรวจโควิด-19 แบบ RT PCR ในระยะเวลา 72 ชม. หรือ ATK ไม่เกิน 24 ชม. ก่อนเดินทาง จากสถานพยาบาลที่รัฐบาลไทยรับรอง พร้อมกับต้องติดตั้งแอปพลิเคชันกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม และอัปโหลดข้อมูลต่างให้ครบถ้วน โดยช่วงระหว่างแข่งขัน หากถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 นักกีฬาจะถูกตัดสิทธิ์ในการแข่งขัน และถูกแยกไปอยู่ที่ “โฮสพิเทล” หรือ โรงพยาบาลที่เจ้าภาพกำหนดทันที โดยผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

“ต้องยอมรับว่าการเดินทางไปแข่งขันรอบนี้ ต้องระมัดระวังเรื่องโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย จากการที่อาจจะใกล้ชิดกันกับนักกีฬาชาติอื่น ๆ ระหว่าง รับประทานอาหารในโรงแรม หรือนั่งรถบัสนักกีฬาร่วมกัน ซึ่งจุดนี้เราได้มีการประสานกับการกีฬาแห่งประเทศไทยให้จัดเตรียมหน้ากากอนามัน เจลแอลกอฮอลล์ รวมถึงชุดตรวจ ATK ไปเอง ซึ่งผมเองก็ยอมรับว่ายังมีความกังวลกับเรื่องมาตรฐานชุดตรวจของทางเจ้าภาพ ในกรณีที่หากตรวจกับทางเจ้าภาพ แล้วพบว่าติดเชื้อ ก็อยากให้ทีมและนักกีฬารีเช็คอีกครั้งด้วยชุดตรวจ ATK ที่เราเตรียมไปเอง” นายธนา กล่าว