22/11/2024

ยโสธร-ปปช.ตรวจสอบถนนคอนกรีตทรุดตัวหลังสร้างเสร็จไม่ถึง 3 เดือน

ยโสธร-ปปช.ตรวจสอบถนนคอนกรีตทรุดตัวหลังสร้างเสร็จไม่ถึง 3 เดือน

 

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ป.ป.ช.จังหวัดยโสธรลงพื้นที่ตรวจสอบถนนคอนกรีต ของเทศบาลตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ที่ใช้งบประมาณดำเนินการก่อสร้างไปจำนวนกว่า 5 ล้านบาท แต่กลับพบว่าไหล่ทางบางจุดไม่ได้มาตรฐานตรงตามแบบและพื้นดินใต้พื้นถนนคอนกรีตเกิดการทรุดตัวสไลด์ลงด้านข้างถนนจนเป็นโพรงระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร ส่งผลให้พื้นคอนกรีตมีรอยแตกร้าวหลังจากที่ก่อสร้างเสร็จและส่งมอบงานได้ไม่ถึง 3 เดือน จนชาวบ้านที่ใช้เส้นทางสัญจรไปมาหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้ถ้าหากยังไม่ได้รับการแก้ไข…….นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดยโสธร หรือ ป.ป.ช.พร้อมด้วยชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดยโสธร และนายสุพิช สามารถ นายอำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร

ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายแยกทางหลวงชนบท ยส.4004 (กม.ที่ 19+ 222 ) บ้านโคกใหญ่ หมู่ 2 บ้านทรัพย์เจริญ หมู่ 7 ตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างของเทศบาลตำบลศรีแก้ว เป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 1,010 เมตร หนา 0.15 เมตร พร้อมไหล่ทางลูกรังกว้างข้างละ 0.50 เมตร งบประมาณดำเนินการก่อสร้าง จำนวน 5,390,000 บาท ผู้รับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบงานให้กับเทศบาลตำบลศรีแก้ว เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยโสธร ได้รับการร้องเรียนว่าถนนเส้นดังกล่าวก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน,ไหล่ทางไม่ได้มาจรฐานตามแบบ,ใช้ปูนไม่ได้มาตรฐานจนเกิดรอยแตกร้าวและพื้นถนนทรุดตัวจนชาวบ้านที่ใช้เส้นทางต้องคอยระวังและหวาดผวาดินทรุดใต้พื้นคอนกรีตเป็นแนวยาวทั้งๆที่พึ่งจะก่อสร้างเสร็จและส่งมอบงานไปไม่ถึง 3 เดือน จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบเนื่องจากเสียดายเงินงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ไปกว่า 5 ล้านบาท


จากการตรวจสอบพบว่าถนนคอนกรีตเส้นดังกล่าวพึ่งจะก่อสร้างเสร็จและส่งมอบงานไปเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมาและพบว่าจุดที่เป็นปัญหาคือช่วงที่ผ่านลำห้วยซึ่งมีการถมดินและบดอัดหินลูกรังจากผิวถนนเดิมให้สูงขึ้นจากระดับเดิมกว่า 7 เมตร ก่อนจะมีการเทคอนกรีตทับหลังอีกชั้นแต่จากการดูจากสภาพทางกายภาพพบว่าชั้นดินและชั้นหินลูกรังใต้พื้นคอนกรีตเกิดการทรุดตัวและสไลด์ลงด้านข้างจนเป็นโพรงใต้พื้นคอนกรีตลึกเข้าไปกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร จนส่งผลทำให้ผิวถนนคอนกรีตจุดดังกล่าวเกิดรอยแตกร้าวหลายจุดเป็นที่หวาดเสียวกับชาวบ้านที่ใช้เส้นทางซึ่งหลายคนหวั่นเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายได้ถ้าหากยังไม่รีบแก้ไข


นอกจากนี้ยังมีอีกเส้นทางที่ได้รับการร้องเรียนในลักษณะเดียวกันคือโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายโนนประทาย-ศรีแก้ว-ทรัพย์เจริญ หมู่ 7 ตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 2,100 เมตร หนา 0.15 เมตร พร้อมลูกรังไหล่ทางข้างละ 0.50 เมตร งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 6 ล้านบาท สิ้นสุดสัญญาวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่ามีไหล่ทางบางจุดที่ไม่ได้มาตรฐานตามแบบจริงเนื่องจากบริเวณไหล่ทางเกิดการสไลด์ตัวลงจนไม่เหลือไหล่ทางตรงตามแบบซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการบดอัดไม่ได้มาตรฐานจึงได้กำชับให้ทางเทศบาลตำบลศรีแก้ว เจ้าของโครงการฯได้ประสานกับผู้รับเหมาให้เข้าไปดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพราะถนนทั้ง 2 เส้น ยังอยู่ในระหว่างการรับประกันของผู้รับเหมาในระยะเวลา 2 ปี


นายอดุลย์ วันดี ผอ.ป.ป.ช.จังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จากการที่มีสื่อออนไลน์เพจเฟชบุ๊คของชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริตภาคอีสาน ได้มีการโพสร้องเรียนขอให้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ทั้ง 2 โครงการฯของเทศบาลตำบลศรีแก้ว ว่าเป็นถนนลอยได้ มีสภาพถนนที่มีรอยแตกร้าว ตามข้อมูลว่ามีไหล่ทาง 0.50 เมตร แต่ตามสภาพบางจุดก็มีบางจุดกผ้ไม่ถึง จากการตรวจสอบใต้พื้นถนนดินที่ใช้บดอัดมันหายไป ในวันนี้ตนพร้อมด้วยชมรม Strong ยโสธรและนายอำเภอเลิงนกทา จึงได้มาร่วมกันตรวจสอบในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้นยังอยู่ในระยะรับประกันสัญญาและได้แจ้งกับทางเทศบาลตำบลศรีแก้วแล้วว่าจุดที่มีปัญหาก็ให้ประสานกับผู้รับเหมาให้มาแก้ไขจุดไหนถ้าจำเป็นต้องรื้อทำใหม่ก็ต้องรื้อเพื่อให้มันถูกต้องและจะขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆมาศึกษาอีกทีหนึ่งว่ากระบวนการตรวจรับขณะนั้นได้ตรงตามสเป็กหรือไม่หรือไร


ด้าน นายศักดิ์ชาย แสงโชติ นายกเทศมนตรีตำบลศรีแก้ว กล่าวว่า โครงการฯดังกล่าวเป็นงบเหลือจ่ายจากกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นที่จังหวัดยโสธรจัดสรรมาให้ดำเนินการในพื้นที่ของเทศบาลตำบลศรีแก้ว ด้วยเงินประมาณ 5,400,000 บาท โดยนายช่างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร เป็นผู้ออกแบบมาให้ซึ่งพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเราจึงได้มีการยกระดับสูงขึ้นแต่พอก่อสร้างเสร็จดูจากสภาพที่มันอยู่บนที่สูงน้ำจึงกัดเซาะแต่ว่าถนนเส้นนี้อยู่ในระยะประกันของผู้รับเหมา 2 ปี จึงจะได้แจ้งให้ผู้รับเหมาได้เข้ามาดำเนินแก้ไขโดยด่วน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยให้ผู้รับเหมาได้เข้ามาแก้ไขแล้วครั้งหนึ่งตรงที่ดินทรุดเนื่องจากมีความสูงประมาณ 7-8 เมตร จากนี้ก็จะได้ประสานผู้รับเหมามาดำเนินการแก้ไขอีกครั้งและทำรั้วป้องกันการพลัดตกของประชาชนอีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมัย คำแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดยโสธร

ข่าวที่น่าติดตาม