“ลุงป้อม” ชื่นชม ภูมิใจนักกีฬารับเหรียญรางวัล “The World Games 2022” เร่งผลักดันมวยไทยสู่โอลิมปิก เห็นชอบสอนมวยไทยระดับประถม/มัธยม
“พล.อ.ประวิตร” ชื่นชมความสำเร็จ กีฬาระดับนานาชาติของไทย ภูมิใจนักกีฬารับเหรียญรางวัล “The World Games 2022” เร่งผลักดัน”กีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก เห็นชอบโครงการ สอนมวยไทยระดับประถม/มัธยม
เมื่อ 27 ก.ค.65 พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ รองโฆษก คณะกรรมการโอลิมปิกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ประธานฯคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7/2565 และการประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ
ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้รับทราบผลการดำเนินงานตัวชี้วัดที่สำคัญของ กกท.ปีงบประมาณ 2565 ด้านการบริหารจัดการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ โดยมีสมาคมกีฬาร่วมกันประเมินทั้งสิ้น 87 สมาคม มีผลดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ 77.50 และรับทราบรายงานผลการแข่งขันกีฬา”The World Games 2022″ ณ เมืองเบอร์มิงแฮม สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 7-17 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้อันดับที่ 18 จาก 70 ประเทศ โดยนักกีฬาของไทยประเภทยูยิตสูได้ 2เหรียญทอง 2เหรียญเงิน และประเภทมวยไทยสมัครเล่นได้ 2เหรียญทอง 1เหรียญเงิน รวมทั้งประเภทเปตอง ได้ 2เหรียญทองแดง ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ และขอบคุณนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มีการเห็นชอบร่างตัวชี้วัด ในบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปีบัญชี 2566 ของ กกท.โดยปีนี้เพิ่มตัวชี้วัดใหม่ 2ตัวชี้วัด ได้แก่การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางสังคม และระดับความสำเร็จในการดำเนินงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพ เชิงนิเวศเศรษฐกิจ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานการประชุมต่อเนื่อง คณะอนุกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก ซึ่งมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธานอนุกรรมการฯ โดยที่ประชุมได้รับทราบ รายงานการจัดกิจกรรมกีฬามวยไทยที่มีผลต่อ การขับเคลื่อนกีฬามวยไทยไปสู่โอลิมปิก ที่ผ่านมา อาทิ รายการแข่งขันชิงแชมป์เปี้ยนโลกมวยไทยรายการ IFMA World Championship & Festival 2021 ,การเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” เป็นต้น และรับทราบความคืบหน้าการผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่เกมส์ที่สำคัญ โดยมีการขอใช้ชื่อกีฬา “มวยไทย”ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ การผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ และการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ต่อไป
จากนั้น มร.สเตฟาน ฟ๊อกซ์ ผู้แทนสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ได้ชี้แจงการดำเนินงานของ IFMA ที่สำคัญ (มีสมาชิก 148ประเทศ) ให้ที่ประชุมทราบเพื่อเตรียมความพร้อมของกีฬามวยไทย ก่อนที่จะนำบรรจุเข้าแข่งขันในรายการโอลิมปิก ครั้งต่อไป และรับทราบความคืบหน้าการกำหนดสถานที่สำนักงานใหญ่ (Head Quarter) ของสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำให้สำนักงานใหญ่ของสหพันธ์ฯ จะต้องให้อยู่ในประเทศไทย โดยให้ กกท.และกองทุนพัฒนากีฬาฯสนับสนุนการดำเนินการ
คณะอนุกรรมการฯ ยังได้พิจารณาเห็นชอบ การขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิกในราชอาณาจักร (การนำกีฬามวยไทยเข้าสู่การสอนในสถานศึกษาของรัฐในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา) ภายใต้ชื่อโครงการ”มวยไทยในสถานศึกษาพัฒนาเยาวชนไทย” มี 3ขั้นตอนการดำเนินงาน ได้แก่ ขั้นที่ 1 โครงการนำร่อง ,ขั้นที่ 2 การเข้าสู่สถานศึกษาเต็มรูปแบบ และขั้นที่ 3 การต่อยอดสู่ความเป็นเลิศด้านกีฬา
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยกันผลักดันให้กีฬามวยไทยมีความก้าวหน้า ย้ำ กกท.และสมาคมฯใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา เพิ่มศักยภาพนักกีฬา อย่างจริงจัง และให้สามารถบรรจุเข้าแข่งขันในระดับนานาชาติและระดับโอลิมปิกให้ได้ตามเป้าหมาย พร้อมทั้งให้”มวยไทย”เป็นกีฬาของชาติไทย และของคนไทย ตลอดไป