หอการค้าเลย ชูคอนเซปต์ “มาที่เดียว เที่ยว 2 แผ่นดิน”

นทท.ลดลง 1 ล้านคน พร้อมชูคอนเซปต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ลาว ”มาที่เดียว เที่ยว 2 แผ่นดิน”

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดเลย เปิดเผยถึงโครงการ/นโยบายด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเลยว่า เศรษฐกิจการท่องเที่ยวช่วงปี 2563-2564 ที่การระบาดของเชื้อโควิด-18 ผลกระทบไม่มากนัก ยังพอประครองมาได้ เมื่อมาเปรียบเทียบกับปี 2565 หรือช่วงหลังปลดล็อกโควิด 1 มิ.ย.65 นั้น ถือว่าไม่ค่อยดี ไตรมาส 2 ก็ลดลง ยอด นทท.ไม่สู้ปี 2563-2564 แต่ก็ต้องขอบคุณ อสม.ทำหน้าที่ได้ดีควบคุมได้ในระดับหนึ่ง มาปี 2565 ไตรมาส 2 ยังไม่ดี ไตรมาส 3 น่าจะกระเตื้องขึ้น

เนื่องจากปัจจัยบวกจากภาครัฐที่มีนโยบายเพิ่มวันหยุดยาว แต่ก็ต้องมาประสบกับภาวะราคาสินค้าสูง กระทบทั้งต้นทุน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าครองชีพ ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เป็น แผนงานด้านกระตุ้น นักท่องเที่ยว รวมทั้งชาวไทย-สปป.ลาว และ มาตรการคนละครึ่งก็กำลังจะออกมาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่จังหวัดเลยได้แต่ไม่เยอะ เพราะมาตรการที่รัฐช่วยจ่ายให้โรงแรม ร้านอาหาร กล่าวคือ เช่น ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย จำนวนที่พักที่จดทะเบียนมีไม่กี่แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์และร้านอาหาร ยอดนักท่องเที่ยวจึงไม่สู้ปี 2563

โครงการเราเที่ยวด้วยกันก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ได้ไม่เยอะดังกล่าว ที่ได้คือร้านอาหารมากกว่า ได้ในเชิงบวกไม่สูง เกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวเคยทำสถิติสูงสุดที่ 3 ล้านคน/ปี แต่มาปี 2565 ยอดลดลงเหลือ 2 ล้านคน ส่วนปี 2566 จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องดูที่ราคาสินค้า ค่าครองชีพและ เชื้อโควิด-19 โดยปัญหาอยู่ที่คนไทยนิยมเที่ยวในวันหยุด-วันหยุดยาว จนเต็มจนล้นการบริหารจัดการเป็นไปลกบากเกิดการหนาแน่นเบียดเสียดตามแหล่งท่องเที่ยวและที่พักต่างๆ ทางภาครัฐ เอกชนต้องจัดแคมป์เปญส่งเสริมขึ้น ต้องปรับปรุงส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาเพื่อลดการเบียดเสียด ดังกล่าว

ประธานหอการค้าจังหวัดเลย กล่าวอีกว่า ด้านการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยวเลย-สปป.ลาว นั้น ล่าสุดจังหวัดเลยได้นำคณะผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชน นักธุรกิจ เดินทางไปศึกษาลู่ทาง แผนงาน โครงการชม ร่วมมือกับแขวงไชยะบุรี แขวงหลวงพระบางและแขวง เวียงจันทน์ สปป.ลาว เรามาถึงแนวมลทางส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวที่ทางลาวเองมีศักยภาพค่อนข้างสูงความเป็นธรรมชาติยังบริสุทธิ์ แหล่งสมบูรณ์ จึงต้องระดมความร่วมมือมากขึ้นมีข้อตกลงร่วมกันพัฒนา

ประกอบกับค่าเงินลาวค่อนข้างอ่อนตัวลงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินไทย คือ ค่าเงินลาวจากก่อนนี้ 1 บาทไทย/ 280 กีบลาว แต่ปัจจุบัน 1 บาทไทย เท่ากับ 450 กีบลาว สินค้าส่งออกส่วนใหญ่คือสินค้าอุปโภค-บริโภค น้ำมัน ส่วนสินค้าที่เร่านำเข้าจากลาวส่วนใหญ่ คือ ไม้แปรรูปและพืชไร่ ตนจึงเสนอส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันด้วยคอนเซปต์ “มาที่เดียว เที่ยว 2 แผ่นดิน” แต่ต้องปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางคมนาคมร่วมกัน

บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย