กาฬสินธุ์ งานศพสุดซึ้ง “เจ๊นาง โรงทาน” รับอุปถัมภ์ส่งเสียวัยรุ่นแฝดฐานะยากจน
คนละงานเดียวกัน ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยในงานฌาปนกิจศพ “เจ๊นาง โรงทาน” นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำเอาคนใส่ชุดดำไว้ทุกข์เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆแสดงเจตจำนงสงเคราะห์วัยรุ่นฝาแฝดยากจน กำพร้าพ่อ แม่พิการทางสติปัญญา อาศัยอยู่บ้านหลังเล็กๆใกล้เมรุเผาศพ ได้ศึกษาต่อ หากสนใจและอยากมีอนาคตที่ดี เจ้าภาพและแขกเหรื่อร่วมงานศพได้ยินเป็นปลื้มซาบซึ้งสุดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เมรุสถานโนนบ้านเก่า บ้านตูม หมู่ 4 และหมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระครูโพธิชยานุโยค เจ้าคณะตำบลบัวบาน เขต 1 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือ “เจ๊นาง โรงทาน” อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พิธีทอดผ้ามหาบังสุกุลและวางดอกไม้จันทน์ ในงานฌาปนกิจศพนายชาตรี ภูผาลาด อาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและพ่อค้าคนกลางกุ้งก้ามกราม บ้านตูม หมู่ 4 หลังเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว โดยมีนายบรรจง ยนต์ชัย ส.อบจ.อ.ยางตลาด เขต 4, นางสมจิตร จันทะภา สท.ทต.โคกศรี อ.ยางตลาด, นางละมุล ภักดีนอก ผู้ใหญ่บ้านตูม หมู่ 4 พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ญาติพี่น้อง จำนวนกว่า 200 คนร่วมพิธี และไว้อาลัยให้กับผู้วายชนม์
โดยพิธีฌาปนกิจจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าอาลัย ทั้งนี้ ก่อนที่จะถึงขั้นตอนของการอ่านประวัติผู้วายชนม์ และถวายผ้าบังสุกุล ได้มีการมอบเงินสงเคราะห์ญาติผู้ล่วงลับ โดยองค์กรและสมาคมฌาปนกิจต่างๆ จากนั้นเจ้าภาพมอบทุนสนับสนุนเพื่อการสาธารณะกุศลแก่วัด โรงเรียน หมู่บ้าน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งเป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชน
จากนั้นนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง โรงทาน ได้ร่วมมอบเงินทำบุญให้กับเจ้าภาพ พร้อมแจ้งให้พิธีกรในงานประกาศว่า ในโอกาสนี้ยังจะได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเด็กวัยรุ่นฝาแฝดชายฐานะยากจน โดยบิดาถูกทำร้ายเสียชีวิต อาศัยอยู่กับมารดาซึ่งเป็นบุคลคลพิการทางสติปัญญา ขณะที่บ้านซึ่ง 3 คนแม่ลูกพักอาศัยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และมีสภาพทรุดโทรม โดยเฉพาะที่สร้างความสลดและหดหู่ให้กับผู้พบเห็นคือ ตัวบ้านที่กินอยู่หลับนอน อยู่ห่างจากเมรุเผาศพเพียง 30 เมตรเท่านั้น
นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง โรงทาน กล่าวว่า ตนจำได้ว่าเมื่อปี 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากเครือข่ายจิตอาสาให้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัว น.ส.บุญรบ ขันอาสา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 หญิงพิการทางสติปัญญา พร้อมบุตรชายฝาแฝดวัย 14 ปี คือ ดช.ธนพล และ ดช.ภัทรพล ภูนาชัย ซึ่ง 3 แม่ลูกฐานะยากจน ที่พักอาศัยเป็นบ้านปูนหลังเล็กๆติดพื้น ก่อหยาบๆ สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังและหลังคาสังกะสี เต็มไปด้วยรูโหว่ แทบไม่มีสภาพเป็นบ้าน โดยครั้งนั้นตนไม้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งพร้อมถุงยังชีพ ประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ก่อนที่ต่อมาส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาต่อยอดโดยปรับปรุงที่พักอาศัยและมอบเครื่องนอน ซึ่งในครั้งนั้นตนได้พูดคุยกับ 3 แม่ลูก ต่อหน้าผู้นำชุมชนและญาติ ว่าพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ทุกด้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ตั้งธงไว้คือพร้อมที่ส่งเสริมด้านการศึกษาให้กับเด็กชายฝาแฝด หากต้องการหรือขาดเหลืออะไรให้บอกด้วย หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดตามผล แต่ก็รู้สึกเบาใจที่ทราบว่ามีหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมดูแล 3 แม่ลูกเป็นระยะๆ
นางวันเพ็ญกล่าวอีกว่า พอวันนี้ได้มีโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในพิธีถวายผ้ามหาบังสุกุล และทราบว่าเด็กชายฝาแฝดคู่นี้ไม่ได้เรียนต่อ ยังอาศัยอยู่กับมารดาและอยู่บ้านหลังเดิมที่อยู่ด้านหลังเมรุเผาศพ ก็รู้สึกเป็นห่วงและเสียดายอนาคตของเด็ก จึงแจ้งให้พิธีกรในงานฌาปนกิจประกาศเรียก 3 แม่ลูกเข้ามาหา และกำชับคำพูดเดิม ยืนยันด้วยเจตนาเดิม คืออยากสนับสนุนให้เด็กชายฝาแฝดได้ศึกษาต่อ อาจจะเป็นสายอาชีพก็ได้ ซึ่งมีสถาบันการศึกษาใกล้บ้านหลายแห่ง หากอยากมีวิชาชีพติดตัว สามารถเลี้ยงตัวเองได้และเป็นที่พึ่งของมารดาในอนาคต ตนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเด็กและผู้ปกครอง
ด้านนายธนพล ปัจจุบันอายุ 16 ปี แฝดผู้พี่กล่าวว่า ตนกับน้องเรียนหนังสือไม่เก่ง ประกอบกับฐานะยากจน ไม่มีทุนการศึกษา หากเรียนต่อคงลำบากมาก ไม่มีเงินค่าเล่าเรียนและค่ารถเดินทางไปเรียนแน่นอน พอเรียนจบ ม.3 จากโรงเรียนขยายโอกาสในหมู่บ้าน จึงอยู่บ้านกับแม่ ขณะที่แม่ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 800 บาท และมีรายได้จากการไปรับจ้างถอนกล้า และดำนา บ้างเท่านั้น ส่วนที่มีผู้ใหญ่ใจดี คือนางวันเพ็ญอยากจะส่งเสียตนกับน้องเรียนต่อนั้น ก็ต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง อย่างไรก็ตาม ก็คงอยู่การตัดสินใจของแม่ว่าจะให้ไปเรียนต่อหรือไม่ เพราะตนกับน้องสงสารแม่มาก เนื่องจากแม่เป็นคนพิการทางสติปัญญา จึงอยากอยู่ดูแลแม่ ตอนนี้ยังตัดสินใจหรือให้คำตอบอะไรไม่ได้ ขอเวลาปรึกษากันก่อน
ทั้งนี้ จากการที่นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง โรงทาน แจ้งความประสงค์เป็นผู้อุปถัมภ์ 2 พี่น้องฝาแฝดในงานฌาปนกิจ ท่ามกลางแขกเหรื่อ ผู้มีเกียรติ จำนวนกว่า 200 คนดังกล่าว ถือเป็นข่าวดีต่อ 3 แม่ลูกที่มีบ้านอยู่ใกล้เมรุเผาศพ จึงต่างรู้สึกเป็นปลื้มดีใจกับ 3 แม่ลูกด้วย ไม่ต่างกับจุดต่อมแห่งความรู้สึกยินดีในความโศกเศร้า ทำเอาคนแต่งดำไว้ทุกข์หลายคนปรับเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเลยทีเดียว ในงานฌาปนกิจเพื่อแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายให้กับผู้ล่วงลับในครั้งนี้ จึงมีหลากหลายอารมณ์ ทั้งส่งใจให้ผู้วายชนม์สู่สรวงสวรรค์ ทั้งเป็นแรงใจให้ครอบครัวผู้วายชนม์เข้มแข็ง และทั้งเป็นกำลังใจให้เด็กวัยรุ่นฝาแฝดรับข้อเสนอของ “เจ๊นาง โรงทาน” ในการที่จะศึกษาต่อ เพื่อเป็นใบเบิกทางไปสู่การมีอาชีพและอนาคตที่ดี