นราธิวาส-“วันนอร์-ทวี” รุดเยี่ยม เหยื่อบึ้มปั๊ม-ร้านสะดวกซื้อ จี้รัฐเร่งเยียวยาครอบคลุม
“วันนอร์ – ทวี” ให้กับใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุคนร้ายวางระเบิด-เผา “ปั๊มน้ำมัน-ร้านสะดวกซื้อ” 17 จุด แนะตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อการเยียวยาที่รวดเร็ว บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ชี้ทุกคนกังวลเรื่องเยียวยาไม่ครอบคลุม เปิดธุรกิจได้ช้า แต่ดอกเบี้ยเดินทุกวัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ส.ค.65 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ส.ส. ผู้บริหารพรรค ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดและวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ และปั้มน้ำมัน รวม 17 จุด ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 16-17 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยจุดแรก ได้เดินทางไปพบครอบครัวของ นายวิชชุ ไลวานิช เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) วัชระปิโตรเลียม ผู้ประกอบกิจการปั๊มบางจาก ใกล้แยกดอนยาง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า วันนี้นำ ส.ส.พรรคประชาชาติ มาเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบบริเวณปั๊มบางจาก ดอนยาง พบว่าปั๊มน้ำมันเสียหายมาก มาให้กำลังใจ ขอให้สู้ต่อไป ในส่วนของแนวทางรัฐบาล ต้องเร่งให้การเยียวยา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุวิสัย ถ้านักธุรกิจไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็ไม่มีใครมาลงทุน ต้องรีบแก้ไข้ให้สามารถเปิดเป็นปกติได้โดยเร็ว
รุดเยี่ยมปั๊มน้ำมันโก-ลก – ครอบครัวผู้เสียชีวิต
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้พาคณะเดินทางไปพบ นายชาญณรงค์ อภิบาลธนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ปตท.สุไหงโก-ลก และเจ้าของปั๊ม ปตท.ปาเสมัส ที่ถูกคนร้ายนำระเบิด 6 ลูกไปวางไว้บริเวณตู้จ่ายน้ำมัน และหัวจ่ายน้ำมันภายในปั๊ม พร้อมวางเพลิงและวางระเบิดร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. โดย พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวให้กำลังใจ และรับปากจะช่วยติดตามเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาต่างๆ
คณะของ พ.ต.อ.ทวี ยังได้เดินทางต่อไปอีก 10 กิโลเมตร ที่บ้านปูเยะ ใน อ.สุไหงโก-ลก เช่นกัน เพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของ นายมะษาริช มามะ อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตภายในร้านสะดวกซื้อ ของ ปั๊ม ปตท.ปาเสมัส
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้มาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมาให้กำลังใจ อยากฝากเจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ทั้งหมดโดยเร็ว เพราะผู้เสียหายไม่ได้มีเรื่องกับใคร แต่เป็นนักธุรกิจ
แนะให้ความสำคัญดูแลนักธุรกิจในพื้นที่
“โดยหลักการแล้ว สำหรับพื้นที่แห่งนี้ ไม่แน่ใจว่าระเบียบได้เปลี่ยนไปหรือยัง คือการเยียวยาให้อยู่ในอำนาจจังหวัด จะมีคณะกรรมการพิจารณา แต่ถ้าเป็นเหตุพิเศษลักษณะนี้ ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการพิเศษ เช่นในอดีตเหตุที่เกิดขึ้นที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ก็จะให้รองเลขาธิการ ศอ.บต. เข้าไปดูแล จะได้ทำให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเยียวยาได้เร็ว ไม่ใช่แค่ผู้เสียหายที่ได้รับประโยชน์ แต่จะทำให้นักธุรกิจรายอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ มีความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย”
“ที่สำคัญเราอย่าไปหวังนักธุรกิจต่างพื้นที่เข้ามามาก บางทีเราไปให้สิทธิ์กับนักธุรกิจต่างพื้นที่เยอะ แต่คนต่างท้องที่ก็ไม่ค่อยมา เพราะเขากลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย เราก็ต้องให้ความสำคัญกับนักธุรกิจหรือผู้ที่ทำงานในพื้นที่ก่อน”
“พูดคุยสันติสุขฯ” อย่าให้ปิดลับ – ให้ไปรายงานสภา
“ในส่วนของการเยียวยากรณีปั๊มน้ำมัน จะเป็นพิเศษเยอะ เช่น ไม่ได้ดูแค่ความเสียหายแต่ภายนอก ต้องดูฐานล่างด้วย แต่ที่มีความเป็นห่วงเพราะนักธุรกิจจะไปกู้เงินมา แล้วยิ่งทำให้เขาหยุดกิจการ ดอกเบี้ยก็จะวิ่งทุกวัน ก็ขอให้กำลังใจ และในสถานการณ์ความไม่สงบก็อยากให้กำลังใจทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วย เราก็มีความคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะมีความเข้มแข็งเรื่องการข่าว เรื่องข้อมูล เรื่องพูดคุยสันติสุขฯก็ควรจะมีความก้าวหน้า เรื่องลักษณะแบบนี้ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร เพราะช่วงหลังๆ ประชาชนก็ฝากความหวังกับการพูดคุยฯ และการพูดคุยก็อาจปิดลับเกินไปสักหน่อย ในทางปฏิบัติ พรรคการเมืองเกือบทุกพรรคก็อยากให้นำเรื่องการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯเข้าไปในสภา เพราะคนจะได้เข้าใจ ส.ส. ที่เป็นคนพุทธ ส.ส.ที่เป็นศาสนิกอื่นจะได้รู้ว่า สถานการณ์จริงๆ เป็นอย่างไร ถ้าเกิดทำให้อยู่กับคนน้อย จะยิ่งเป็นความลับ มันจะยิ่งเป็นข่าวลือ”
แนะรัฐทบทวนบทเรียน – ชูเศรษฐกิจแบ่งปัน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ทุกฝ่ายหวังว่าบ้านเมืองจะสงบ เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ฉะนั้นทุกเหตุการณ์ควรจะเป็นบทเรียน เหมือนข่าวที่รายงาน หรือข้อมูลที่ได้รับว่าสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม รัฐก็ต้องมาทบทวนเหมือนกัน ต้นตอของเหตุการณ์มาจากลักษณะการดำเนินธุรกิจ หรือเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ เพราะเศรษฐกิจควรจะแบ่งบันกัน แต่เหตุการณ์ ตรงนี้สะท้อนได้หลายอย่าง ก็ขอให้กำลังใจ
“สิ่งหนึ่งที่ได้พูดคุยกับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบก็คือ ทุกคนเป็นห่วง อยากจะเปิดธุรกิจ เพราะธุรกิจทุกอย่างมันเป็นเงินที่เขาต้องกู้มา ร้านอาหารก็อยากจะเปิด สิ่งที่รัฐมีหลักประกันว่าพื้นที่นี้มีกฎหมายพิเศษ สามารถให้ประชาชนมีสิทธิมีเสรีภาพน้อยลงได้ พอน้อยลงแล้ว ถ้าเหตุการณ์ยังเกิดอยู่ ก็เหมือนเป็นความรับผิดชอบของรัฐ รัฐก็ต้องมาเยียวยาส่วนที่เกิดขึ้น และที่ได้คุยกับเจ้าของธุรกิจ ก็กลัวว่าการเยียวยาจะไม่ครอบคลุม อาจจะดูเฉพาะวัตถุ แต่การเยียวยาต้องดูให้ละเอียดมาก” เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส