“ลุงป้อม” ติดตามสถานการณ์น้ำ และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก “มู่หลาน” สั่งเร่งช่วยเหลือฟื้นฟู และทำแผนรับมือให้ชัดเจน
รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดน่าน ติดตามสถานการณ์น้ำ และการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” สั่งเร่งช่วยเหลือฟื้นฟู และจัดทำแผนรับมือฤดูฝนให้ชัดเจน
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจราชการพื้นที่จังหวัดน่าน ประชุมรับฟังบรรยายสรุปความเสียหายของพื้นที่จังหวัดน่านที่ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่น ”มู่หลาน” และติดตามความก้าวหน้าของนโยบายรัฐบาล ประกอบด้วย ข้อมูลและสถานการณ์น้ำจังหวัดน่าน การแก้ไขปัญหาน้ำหลากจังหวัดน่าน สรุปความเสียหายของพื้นที่การขอรับการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ณ ที่ห้องประชุมเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ศาลากลางจังหวัดน่าน
โดย นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดน่านได้รับผลกระทบจากพายุมู่หลานระหว่างวันที่ 11 – 15 สิงหาคม 2565 เกิดความเสียหายจำนวน 13 อำเภอ 61 ตำบล และ 368 หมู่บ้าน โดยจังหวัดน่าน ได้ใช้เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือไปแล้วอำเภอละ 300,000 บาทรวมเป็นเงินกว่า 5 ล้าน 5 แสนบาท คงเหลือในอำนาจของผู้ว่าอีกประมาณ 10 ล้านบาท
ที่ผ่านมามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้มอบสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยไปแล้ว 2 ครั้ง ในการนี้จังหวัดได้เสนอขอขยายวงเงินทดรองราชการไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพิ่มเติมขณะที่สิ่งสาธารณูปโภคที่เสียหายที่จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมก่อสร้างใหม่
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี และคณะฯ เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลไชยสถาน เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว บ้านศรีเกิด อ.เมืองน่าน จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่ตำบลบ่อ อ.เมืองน่าน บริเวณสะพานที่ขาดจากอิทธิพลพายุมู่หลาน เพื่อรับฟังการนำเสนอข้อมูลความเสียหายและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุดีเปรสชั่น ”มู่หลาน” และพบปะประชาชนพร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้แทนประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 1,000 ชุด ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านบ่อ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุมู่หลาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินประชาชนอย่างมาก รัฐบาลห่วงใยประชาชน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพื่อให้ประชาชน ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และเร่งฟื้นฟูให้คืนสภาพโดยเร็ว ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำแผนแก้ไขปัญหาระยะสั้น และระยะยาว
ขอให้ สทนช. กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดทำแผนปฏิบัติการ ดำเนินการตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ และดำเนินการตามแผนเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุดตามแผนที่วางไว้ ขอให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างการรับรู้ และให้การช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด หากเงินไม่พอให้ขอขยายงบประมาณ ในส่วนของจังหวัดน่าน และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ให้เร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย 2 ส่วน คือ ในส่วนของอำนาจจังหวัดที่ดำเนินการได้ ให้เร่งดำเนินการ
ส่วนที่เกินกว่าอำนาจของจังหวัด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการโดยเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เดือดร้อน หรือเดือดร้อนน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดความผาสุกที่แท้จริงแก่ประชาชน ขณะเดียวกันมีบางโครงการที่จะต้องเข้าไปดำเนินการในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ขอให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่านอำนวยความสะดวกให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
สำหรับกรมทางหลวง ให้เร่งรัดก่อสร้างสะพานปากนายและวางแผนการใช้เงินโดยในระยะแรกได้รับงบประมาณในการศึกษา ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 30 ล้านบาท ให้เร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
บุญยงค์ สดสอาด ภาพข่าว เอนก ธรรมใจ รายงาน