สงขลา-บิ๊กโจ๊กกำชับและสั่งการให้สืบสวนสอบสวนคดีตาวัย 66 ปี โกรธจัดชักปืน.38 ยิง 3 นัด หนุ่มอายุ 20 ปีเสียชีวิต
สงขลา-บิ๊กโจ๊กกำชับและสั่งการให้สืบสวนสอบสวนคดีตาวัย 66 ปี โกรธจัดชักปืน.38 ยิง 3 นัด หนุ่มอายุ 20 ปีเสียชีวิตรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ตามกฎหมาย เนื่องจากมาขโมยรถที่มาจำนำล่าสุดมอบตัวแล้วแต่ยังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.วานนี้ 6 ตุลาคม 2565 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.อ. พิชัย กิระวานิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.อ. กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก. สภ.สะเดา และ พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก. สส. ภ.จว.สงขลาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา เจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดสงขลา แถลงข่าวคดีฆ่า นายวัชโรดม หรือโย นิชรัตน์กุล อายุ 20 ปี
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.ย.65 เวลาประมาณ 19.04 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายวัชโรดมหรือโย นิชรัตน์กุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/9 ถนนชื่อนา ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง เสียชีวิต เหตุเกิดที่ห้องเช่าเลขที่ 91 ซ.ลมโซย ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 3 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ นายจาย ต้ามทอง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ขับขี่ รถ จยย. ไปหาผู้ตายที่ห้องเช่าที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับเรื่องที่น้องชายของผู้ตายได้นำรถจักรยานยนต์ไปจำนำกับผู้ต้องหา และได้มาขโมยรถจักรยานยนต์กลับไป ทำให้ นายจายฯ โกรธ จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38ซุปเปอร์ ยิงนายวัชโรดม นิชรัตน์กุล จำนวน 3 นัด ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.ย.65 นายจายฯ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา โดย จนท.ตร.ได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พาอาวุธปีนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ” ในชั้นรับมอบตัวนายจายฯ ได้ให้การ”ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา” โดยไม่ได้นำอาวุธปืนมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้มีข้อกำชับและสั่งการให้ ภ.จว.สงขลา และ สภ.สะเดา ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ตามกฎหมายอย่างละเอียดรอบคอบ โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สงขลา ร่วมกับ สภ.สะเดา ได้ทำการตรวจค้นบ้านของ นายจาย ด้ามทอง ผู้ต้องหา พบกล่องกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 1 กล่อง และซองพกปืนสั้นจำนวน 1 ซอง จึงได้ทำการยึดไว้ประกอบคดี
จากการตรวจสอบใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนของ นายจาย ด้ามทอง ผู้ต้องหา พบว่าได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนขนาด 38ซุปเปอร์ จำนวน 1 กระบอก และปืนยาวเดี่ยวขนาด .22 จำนวน 1กระบอก
โดยผู้ต้องหาให้การว่าอาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ ได้หายไปเมื่อประมาณปี พ.ศ.2552 แต่ไม่ได้แจ้งหายแต่จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายเอกลักษณ์ ต้ามทอง บุตรชายของนายจาย ฯ ผู้ต้องหา ได้มีการโพสต์ภาพอาวุธปืนของนายจาย ฯ ทางเฟสบุ๊ค เมื่อปี พ.ศ.2557 ซึ่งไม่ตรงกับคำให้การของนายจายฯ และต่อมา นายจายฯผู้ต้องหา จึงได้ยินยอมนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึด เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการสอบสวนพยานบุคคล พยานวัตถุที่ตรวจยึด การตรวจสอบภาพจากกล้องวรจงปิด รวมถึงพยานหลักฐานจากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถยืนยันการกระทำความผิดของ นายจาย ด้ามทอง ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้อย่างชัดเจน สำหรับนายเอกลักษณณ์ ด้ามทองบุตรชายของนายจาย ฯ พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ได้ดำเนินคดีอีกคดีหนึ่ง ในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ โดยให้การ “รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา