อาสาสมัครพิทักษ์ทะเลส่งข่าวให้ชุดปฏิบัติการพิทักษ์ทะเล ทช. สกัดกลุ่มลักลอบยิงปลาแนวปะการังก่อนเกิดเหตุได้ทัน
อาสาสมัครพิทักษ์ทะเลส่งข่าวให้ชุดปฏิบัติการพิทักษ์ทะเล ทช. สกัดกลุ่มลักลอบยิงปลาแนวปะการังก่อนเกิดเหตุได้ทัน
วันที่ 10 ตุลาคม 2565 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า จากการรายงานของนายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สทช.4) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่ได้รับแจ้งจากอาสามัครพิทักษ์ทะเลว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยิงปลาในพื้นที่แนวปะการัง จึงมอบหมายให้หน่วยจัดการพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตำบลเกาะเต่า เพื่อตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งพื้นที่บริเวณอ่าวสาม (เกาะนางยวน) ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พบเรือนักท่องเที่ยวลักษณะเป็นเรือใบ มีนักท่องเที่ยวจำนวน 2 คน เป็นต่างชาติ 1 คน และชาวไทย 1 คน เจ้าหน้าที่จึงร่วมกับฝ่ายปกครองได้ทำการตรวจค้นเรือพบปืนสำหรับใช้ยิงปลา แต่ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิด จึงได้ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวให้งดเว้นกระทำการประมงในรูปแบบยิงปลาในแนวปะการัง เนื่องจากจะส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำอาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ ในส่วนปืนสำหรับใช้ยิงปลา ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ทำการตรวจยึดไว้ และในช่วงวันเดียวกันได้ทำการประชาสัมพันธ์ เรื่องการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวแนวปะการัง รวมทั้งการใช้ทุ่นผูกเรือที่ถูกต้องและไม่ส่งผลกระทบต่อแนวปะการังให้กับผู้ควบคุมเรือท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวและทำกิจกรรมทางทะเล ให้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนห้ามกระทำอันใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปืนยิงปลา การเดินเหยียบย่ำแนวปะการัง การนั่งถ่ายภาพบนกองปะการัง การจับสัตว์น้ำขึ้นมาถ่ายรูป การทิ้งสมอเรือบริเวณพื้นที่คุ้มครอง เป็นต้น มิฉะนั้น อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 2558 นอกจากนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านได้เน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม
รวมถึงวอนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาสัมผัสความงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล โปรดดูแต่ตา มืออย่าต้อง ไม่เอาอะไรกลับไปนอกจากภาพถ่ายแทนความทรงจำ และไม่ทิ้งขยะ ทิ้งไว้แค่เพียงรอยเท้า พร้อมกับกำชับให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ติดป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณชายหาด หรือสถานที่สำคัญ รวมถึงเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อบังคับให้แก่พี่น้องประชาชนได้รับทราบและนำไปฏิบัติ ทั้งนี้ หากท่านใดพบเห็นเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งในสถานที่ท่องเที่ยว หรือทั้งในโลกออนไลน์ ให้ท่านรีบแจ้งเบาะแสมายังหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ หรือสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร. 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง