กลุ่มหนุนอุตสาหกรรมขอให้พรรคการเมืองอย่างฟังความข้างเดียว ถามว่า”เปลี่ยนเมืองอุตสาหกรรม”เป็น”เมืองการศึกษา” เด็กจบแล้วจะไปไหน ถ้าไม่มีงานทำ ใครรับผิดชอบ

นายมะนับ หลำโส๊ะ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่เห็นด้วยกับโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 “ หรือ”เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ได้กล่าวถึงการที่ กลุ่มผู้”เห็นต่าง”และออกมาคัดค้านโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4 ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งมีการเคลื่อนไหวด้วยการยื่นหนังสือให้กับ”พรรคประชาชาติ” เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เปลี่ยนเมืองต้นแบบมี่ 4 หรือ “เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต “เป็น”เมือง แห่งการศึกษา” แทน

เรื่องนี้ คนส่วนใหญ่กว่า 90 % ที่เห็นด้วยกับโครงการ “เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต “เพราะต้องการ ท่าเรือ, โรงไฟฟ้า และ อุตสาหกรรม ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน และให้ ลูกหลาน ที่จบการศึกษา ทั้งที่ จบแล้ว ไม่มีงานทำ และที่กำลังจบ ออกมา จะได้มีงานทำ ขอฝากถึงหัวหน้าพรรคประชาชาติว่า เมื่อ เมื่อท่านฟังข้อเรียกร้องของฝ่ายที่เห็นต่าง ไม่ต้องการ ท่าเรือ ไม่ต้องการ ไฟฟ้า ไม่ต้องการ อุตสาหกรรม แล้ว พรรคประชาชาติ ต้องฟังชาวบ้านที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ ที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ด้วย เพราะที่ผ่านมา พรรคการเมือง หลายพรรค ฟังแต่กลุ่มผู้ที่”เห็นต่าง” แต่ไม่เคยสนใจกลุ่มผู้ที่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ซึ่งถือว่าน่าจะไม่ถูกต้อง และเชื่อว่า จะส่งผลกับการเลือกตั้งด้วย เพราะอย่างไรเสีย ผู้ที่เห็นด้วยกับการเกิดขึ้นของ”นิคมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” มีจำนวนมากกว่าผู้เห็นต่าง ที่อยู่ภายในการชี้นำของ เอ็นจีโอ

พวกเรา ที่เห็นด้วยกับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้และประชาชนที่ยากจน เห็นด้วยกับเรื่องของการพัฒนาการศึกษา ซึ่งขณะนี้มี สถาบันการศึกษาเพียงพออยู่แล้ว และเห็นด้วยกับการยกระดับการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นทั้งในเรื่องศาสนาและสามัญ แต่ก็มีคำถามที่ต้องถามพรรคประชาชาติว่า ถ้าเยาวชนจบการศึกษาแล้วไม่มีงานทำ มีคนว่างงานมากมาย เหมือนที่เป็นอยู่ แล้วจะแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตของคนเหล่านี้อย่างไร จะให้ครอบครัวเขาอิ่มท้องอย่างไร อยากให้พรรคการเมือง ที่คัดค้านโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปดูตัวเลขของผู้ที่จบการศึกษา และไม่มีงานทำในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำนวนเท่าไหร่ และให้ทำแผนช่วยเหลือคนว่างงานตกงานเหล่านี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาคัดค้านโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

อยากให้พรรคประชาติ ให้ความสำคัญกับคนทั้งอำเภอ ถามความคิดเห็น ความต้องการของคนส่วนใหญ่ ว่าเห็นอย่างไรกับการการพัฒนาในพื้นที่ ต้องการโรงเรียนเพิ่ม หรือต้องการมีงานทำเพิ่ม อย่าให้ความสนใจเฉพาะผู้ที่บริหารสถานศึกษา หรือกลุ่มอาชีพประมงเพียงกลุ่มเดียว เพราะทุกอาชีพก็มีความสำคัญ มีความต้องการ ที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ในสังคมที่ดีเช่นกัน เพียงแต่กลุ่มของพวกเราแม้มี”ต้นทุนทางสังคม” เพราะไม่มี”เอ็นจีโอ” เป็น”พี่เลี้ยง” และไม่อยู่ในกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนที่เรียกว่าเป็น”ปัญญาชน” เท่านั้น กลุ่มผู้ที่เห็นด้วยกับโครงการ”เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” กล่าว ปิดท้าย