พิจิตร-นราพัฒน์ ผช.รมต.เกษตรเป็นตัวแทนชาวนาลุ่มน้ำยมเมืองชาละวันจี้ถามกรมชลฯใช้งบ231ล้านสร้าง ปตร.วังจิก 7 ปีแล้วทำไมยังไม่เสร็จซะที ?
พิจิตร-นราพัฒน์ ผช.รมต.เกษตรเป็นตัวแทนชาวนาลุ่มน้ำยมเมืองชาละวันจี้ถามกรมชลฯใช้งบ231ล้านสร้าง ปตร.วังจิก 7 ปีแล้วทำไมยังไม่เสร็จซะที ?
กลายเป็นมหากาพย์เรื่องยาวเมื่อกรมชลประทานใช้งบ 231 ล้านบาทเศษ ว่าจ้างผู้รับเหมาให้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เพื่อกักเก็บน้ำในแม่น้ำยม เป้าหมายเกษตรกร 2 อำเภอ นาข้าวเกือบ 4 หมื่นไร่ ชะเง้อคอลอคอยหวังมีน้ำทำนา แต่ปรากฏว่าผ่านมา 7 ปีแล้ว สร้างไม่แล้วเสร็จเสียที จนกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อ ส.ส.พิจิตรเขต 3 ตั้งกระทู้ถามในสภา ล่าสุด นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผช.รมต.เกษตร ต้องลงพื้นที่จี้ถามได้ข้อสรุปเตรียมยกเลิกสัญญาหาผู้รับจ้างใหม่ คาด หลัง 22 มี.ค. 66 จะมีคำตอบที่ชัดเจน ว่าจะได้ใช้งาน ปตร.วังจิกแห่งนี้เมื่อไหร่
วันที่ 27 มกราคม 2566 ความคืบหน้าจากการที่กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมาย แก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมเพื่อเกษตรกรจึงได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยม ทางด้านเหนือจุดที่ 1 คือ ที่ ปตร.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก , จุดที่ 2 คือ ที่ ปตร.ท่าแห ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร , จุดที่ 3 คือ ที่ ปตร.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร , จุดที่ 4 คือ ที่ ปตร. โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งทุกแห่งงานก่อสร้างโดย สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 กองพัฒนาแห่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน ดำเนินการทำเองคืบหน้าไปได้ด้วยดี มีแค่เพียงโครงการ
จุดที่ 3 คือ ที่ ปตร.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ที่ใช้ผู้รับเหมาเป็นผู้ดำเนินการในการก่อสร้าง ด้วยงบประมาณ 231.4 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงการเข้าดำเนินงานก็เจออุปสรรคหลายด้าน ซึ่งใช้เวลาจากวันนั้นถึงวันนี้รวมกว่า 7 ปีแล้ว ก็ยังสร้างไม่เสร็จ คิดเป็นผลงานที่ทำได้แค่ 60% เท่านั้น แถมช่วงนี้ผู้รับจ้างก็ส่อแววว่าจะทิ้งงานจนทำให้ นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 ซึ่งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ลุกขึ้นตั้งกระทู้หารือในสภาผู้แทนราษฎรฝากท่านประธานสภาฯ ถามถึงอธิบดีกรมชลประทาน ว่า โครงการข้างต้น จะคิด จะทำ จะแก้ ปัญหานี้อย่างไร
ล่าสุดเมื่อวันวานที่ผ่านมา นายธนบดี รักสัตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน ก็ได้ลงพื้นที่และได้ให้การต้อนรับ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายไพฑูรย์ แก้วทอง ราษฎรอาวุโสของชาวจังหวัดพิจิตร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพจิตร , นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร พร้อมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนเพื่อดูและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้น นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมทั้ง 4 แห่ง ที่อยู่ในเขต จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญและติดตามงานก่อสร้างทั้ง 4 แห่งนี้ มาโดยตลอด ซึ่งการก่อสร้าง ปตร.ท่านางงาม ปลายปี 66 ก็น่าจะแล้วเสร็จ , ปตร.ท่าแห ปลายปี 67 ก็น่าจะแล้วเสร็จ , ปตร. โพธิ์ประทับช้าง ปลายปี 68 ก็น่าจะแล้วเสร็จ มีแค่เพียง ปตร.วังจิกที่ทำมา 7 ปี มีปัญหาทำยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งในช่วงนี้ก็ไม่ทราบเหตุผลที่ผู้รับจ้างทิ้งงาน ซึ่งกรมชลประทานก็ติดตามเพื่อจะยกเลิกสัญญาจ้าง แต่ด้วยข้อกฎหมายที่ต้องทำตามขั้นตอนและระเบียบของทางราชการ จึงไม่สามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้แบบทันทีทันใด
อีกทั้งผู้รับจ้างได้รับสิทธิ์การขยายระยะเวลาการทำงานในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดให้ขยายระยะเวลาได้อีก 800 วัน จึงทำให้ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ ซึ่งผลจากการที่ผู้รับจ้างทิ้งงานไปตั้งแต่เดือน ส.ค. 65 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ กรมชลประทานก็ทำหนังสือแจ้งให้ส่งแผน ให้กลับเข้ามาทำงาน ซึ่งทำไว้ได้แล้ว 60% ซึ่งเป็นงานฐานรากของประตูระบายน้ำว่า ให้มาทำต่อให้แล้วเสร็จ แต่ส่งหนังสือไปก็ไม่มีคำตอบใดๆกลับมา ดังนั้นถ้าหลังวันที่ 22 มี.ค. 66 ผู้รับจ้างไม่ส่งแผนงาน ไม่กลับเข้ามาทำงานต่อ กรมชลประทานก็จะสามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้ จากนั้นกรมชลประทานก็จะต้องประกาศหาผู้รับจ้างรายใหม่ให้เข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือน ซึ่งคาดว่าประมาณเดือน มิ.ย. 66 ก็น่าจะได้ผู้รับจ้างรายใหม่เข้าทำสัญญาเดินงานก่อสร้าง ปตร.วังจิก ในส่วนอีก 40% ที่เหลือ ซึ่งคงต้องใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ถึงจะแล้วเสร็จดังกล่าว
สิทธิพจน์ พิจิตร
