กลุ่มบริษัทไทย สมายล์ กรุ๊ป จับมือกับ สมาร์ทบัส เปลี่ยนรถเมล์ NGV เป็น EV 100%
กลุ่มบริษัทไทย สมายล์ กรุ๊ป จับมือกับ สมาร์ทบัส เปลี่ยนรถเมล์ NGV เป็น EV 100%
วันนี้ 30 มกราคม 2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง ภายใต้แนวคิด Thai Smile Bus Change For The Better เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ณ ไทย สมายล์ บัส สาขา รามคำแหง 2 ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้แสดงความเชื่อมั่นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบขนส่งมวลชนไทย ทั้งการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบการเก็บค่าโดยสารจากตั๋วแบบกระดาษ มาเป็น HOP CARD ซึ่งเป็นบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของ ไทย สมาย กรุ๊ป ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่าปัจจุบัน ไทย สมายล์ กรุ๊ป กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า (Change For The Better) ประการแรก คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังกับ บริษัท สมาร์ทบัส จำกัด และจะทำการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของสมาร์ทบัส ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% และประการที่สอง คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป
จะยกเลิกการใช้ตั๋วแบบกระดาษ เปลี่ยนไปใช้ HOP Card ชำระค่าโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนด้วยระบบสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผู้โดยสารที่ใช้ HOP Card ยังสามารถใช้แพ็คเกจ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily max fare) ทั้ง 2 แพ็คเกจ คือ แพ็คเกจที่หนึ่ง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยว
ในโครงข่ายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป กว่า 120 เส้นทาง แพ็คเกจที่สอง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 50 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวต่อวัน ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป ซึ่งจากการเริ่มให้บริการตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับและการสนับสนุน จากผู้โดยสารเป็นอย่างดี การจัดแพ็คเกจนี้ สอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่มีเป้าหมายลดค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อน ในการเดินทางของพี่น้องประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้มีจำนวนผู้โดยสารมาเดินทางด้วยรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าของ กลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป พร้อมที่จะเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 38 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง และยังมีแผนขยายการให้บริการมากยิ่งขึ้น โดยจะลงทุนให้มีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าภายในปีนี้ เพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมสูงกว่า 24,000 ล้านบาท รองรับการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ Net Zero /ด้วยเทคโนโลยีสะอาด ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นรูปธรรม
นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไทย สมายล์ กรุ๊ป ขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม ส่วนราชการทุกหน่วยงานรวมถึงเอกชนที่เป็นพันธมิตร ที่ให้โอกาสและให้การสนับสนุนเราด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นของเรา นั่นคือ การเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ไปเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% เปลี่ยนไปใช้ระบบไร้เงินสดด้วย HOP Card เปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย เพื่อความสุขที่มากขึ้น เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ของ กลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป ที่มีความมุ่งมั่นในการให้บริการ “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”