สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลัก “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย”
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลัก “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย”
ตามที่เกิดกระแสข่าวและมีการตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ ๒๕๖๖ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา นั้น
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเรียนว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๕ ได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๖ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการปรับปรุงระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้มีความชัดเจนเหมาะสม และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าว บัญญัติให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ กระทรวงกลาโหมกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ คณะกรรมการการเลือกตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาล องค์กรอัยการ และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอนให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบได้ว่าหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมจะพิจารณาเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานเสร็จสิ้นเมื่อใด รวมทั้งตรวจสอบความคืบหน้าได้โดยผ่านช่องทางที่หลากหลาย แต่ทั้งนี้จะกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อความเป็นอิสระในการอำนวยความยุติธรรมหรือการดำเนินงานโดยสุจริตของบุคคลใดไม่ได้ไม่ว่าทางใด
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอยืนยันว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว โดยยึดหลัก “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย” เป็นสำคัญ