กาฬสินธุ์ชาวบ้านวอนช่วยเหลือเดือดร้อนนายทุนปิดถนนไปทำนา
กาฬสินธุ์ชาวบ้านวอนช่วยเหลือเดือดร้อนนายทุนปิดถนนไปทำนา
ชาวบ้านในตำบลหลุบและตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 30 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนหนัก หลังทางเข้า-ออกที่ดินทำกิน ที่เคยสัญจรมานานกว่า 40 ปี ถูกนายทุนที่มาซื้อที่ดินข้างเคียงนำเสาปูนมาปักขวางทาง ไม่สามารถเข้าออกไปทำนาได้ วอนส่วนราชการช่วยเหลือ
ที่แปลงนาบริเวณ 4 แยกเลี่ยงเมืองกาฬสินธุ์-กมลาไสย ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้าน 20 คน นำโดยนางประเทือง จันทร์สว่าง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 บ้านโนนสว่าง หมู่ 12 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นางสม บังพิกุล อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 6 บ้านหลุบ รวมตัวกันชี้แนวเขตที่ดิน พร้อมเรียกร้องความเป็นธรรมจากนายทุน โดยมีนายอุบล เฉิดสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหลุบ และนายสุวิทย์ แสงสิริวัฒนะ ทนายความประจำสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ รับฟังปัญหา
นางประเทือง จันทร์สว่าง อายุ 50 ปี หนึ่งในชาวบ้านผู้เดือดร้อนกล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้าน ใน ต.หลุบและ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่มีที่นาซึ่งเป็นที่ทำกินอยู่โซนนี้ประมาณ 30 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนด้านเส้นทางเข้าออกมา 1 ปี เนื่องจากนายทุนซึ่งมาซื้อที่ดินข้างเคียงด้านหน้า ได้นำเสาปูนมาปักขวางทางเข้าออก รถไถ รถเกี่ยวข้าวผ่านเข้าไปไม่ได้ ทำให้เสียโอกาสในการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลัก ถึงขณะนี้ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะไม่สามารถติดต่อนายทุนรายดังกล่าวได้ จึงได้ออกมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อขอความเห็นใจจากนายทุน และวิงวอนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ช่วยประสานนายทุนมาเจรจาและเปิดทางให้ด้วย จะได้มีทางสัญจรทำนา และมีรายได้จากการขายข้าวเปลือกไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.
ด้านนายอุบล เฉิดสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหลุบ กล่าวว่า ตั้งแต่รับทราบปัญหาจากชาวบ้าน กรณีนายทุนนำเสาปูนมาปักปิดเส้นทางจราจรดังกล่าว เคยพาชาวบ้านไปร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือจากเทศบาลตำบลหลุบ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งพยายามไปติดต่อถึงบ้านของนายทุนรายนี้หลายครั้ง แต่ไม่พบและไม่ยอมมาเจรจาแต่อย่างใด ช่วงนี้ตนและชาวบ้านผู้เดือดร้อน ทำได้แค่วิงวอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้มีอำนาจในบ้านเมือง ได้โปรดอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ประสานนายทุนมาเจรจาและเปิดทางให้ชาวบ้านได้สัญจรในเร็ววันด้วย เนื่องจากชาวบ้านเดือดร้อนมาก
ขณะที่นายไก่ทอง ไกรมงคล นายกเทศมนตรีตำบลหลุบ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่พิพาท บริเวณนายทุนนำเสาปูนมาปักดังกล่าว เดิมเป็นลำรางระหว่างแนวเขตที่ดินของชาวบ้าน ต่อมาเส้นทางจราจรของน้ำเปลี่ยนไป น้ำไหลไม่สะดวก เจ้าของที่ดินและชาวบ้านหลายรายซึ่งมีที่นาอยู่ด้านใน ได้นำดินมาถมเป็นถนนและมีการพัฒนามาเรื่อยๆ เพื่อเป็นเส้นทางคมนาคม และขนส่งผลผลิตการเกษตร จนเป็นที่รับรู้รับทราบกันโดยทั่วไปว่าเป็นทางสาธารณะ ต่อมาชาวนาที่มีที่ดินติดถนนทางเข้าได้ขายให้กับนายทุน ก่อนที่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จะมีการนำเสาปูนมาปักปิดถนน ทำให้ชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว
นายไก่ทอง กล่าวอีกว่า หลังจากทราบปัญหา ทางเทศบาลตำบลหลุบไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาตลอดเวลา แต่ปัญหาหลักอยู่ที่ไม่สามารถติดต่อนายทุนได้ จึงประสานกับทางอัยการจังหวัดเพื่อเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยกับนายทุน และทราบว่าทางสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ก็ได้ให้ความช่วยเหลือด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อที่จะเรียกนายทุนมาเจรจาและทำการไกล่เกลี่ย ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานานและกำหนดกรอบเวลาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ พบว่าอีกด้านหนึ่งของที่ดินพิพาท ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับถนนใหญ่ เคยมีสภาพเป็นทางสาธารณะ และมีชาวบ้านรายหนึ่งแปลงสภาพเป็นไร่มันสำปะหลัง ซึ่งจะได้ประสานสำนักงานที่ดิน ดำเนินการตรวจสอบแนวเขตเพื่อขอคืนพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยจะเปิดเป็นทางสาธารณะให้ชาวบ้านได้สัญจรอย่างสะดวกในโอกาสต่อไป
***เสียงสัมภาษณ์*** 1.นางประเทือง จันทร์สว่าง อายุ 50 ปี 2.นายอุบล เฉิดสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหลุบ 3.นายไก่ทอง ไกรมงคล นายกเทศมนตรีตำบลหลุบ