การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี
การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี
ตามข่าวสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ ๒๔/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๖คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เห็นชอบกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด โดยรวมจำนวนราษฎรที่ไม่ได้สัญชาติไทยด้วย ต่อมาตามข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๗/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖กรณี คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๑๐ วรรคหนึ่ง (๒) โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๖ (๑) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย นั้น
วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณากำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด กรณีใช้จำนวนราษฎรสัญชาติไทย โดยพิจารณาจากจำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีจำนวน ๖๕,๑๐๖,๔๘๑ คน จึงมีจำนวนราษฎรโดยเฉลี่ยประมาณ ๑๖๒,๗๖๖ คน ต่อจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน และเสนอร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยข้างต้น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ โดยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ปรากฏตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้ส่งเรื่องดังกล่าวข้างต้นให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วต่อไป
อนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกประจำจังหวัดจักได้จัดทำและประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อย ๓ รูปแบบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดเป็นเวลา ๑๐ วัน นับแต่วันปิดประกาศ ในระหว่างวันที่ ๔ – ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖