ระวังภัย! “ผู้การจ๋อ” เตือนภัยมิจฉาชีพสายมู หลังตะครุบหนุ่มหลอกขายพระเครื่อง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ แต่สุดท้ายเบี้ยวไม่ส่งสินค้าให้ลูกค้าดื้อๆ
ระวังภัย! “ผู้การจ๋อ” เตือนภัยมิจฉาชีพสายมู หลังตะครุบหนุ่มหลอกขายพระเครื่อง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ แต่สุดท้ายเบี้ยวไม่ส่งสินค้าให้ลูกค้าดื้อๆ
วันที่ 9 มีนาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงงานของชุด พ.ต.อ.ธัญญพันธ์ บุญสม ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บช.น. พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บช.น. , ร.ต.อ. วรเวช ปรุงเรณู รอง สว.กก.สส.๒ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายพีรพงศ์ สงวนพันธ์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 50 ซอยสุทธิพงศ์ 1 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.107/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ในคดีอาญาที่ 167/2566 ในความผิด ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 50 ซอยสุทธิพงศ์ 1 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม.
สำหรับพฤติการณ์คดีนี้ นายพีรพงศ์ สงวนพันธ์ จะเป็นผู้จัดสร้างพระเครื่องบูชา สายหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน หลวงพ่อรวย ปาสาธิโก วัดตะโก และพระเครื่องต่างๆ โดยเปิดให้สั่งจองผ่านเพจเฟชบุ๊คของนายพีรพงศ์ และกลุ่มไลน์พระเครื่องที่นายพีรพงศ์ เป็นแอดมิน แต่ช่วงกลางปี 2565 ผู้ต้องหาได้เปิดสั่งจองพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ จำนวน 100 กล่อง ราคากล่องละ 19,000 บาท และได้ให้คนชื่อ “ส้ม” เป็นผู้รับผลิต แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถจัดส่งพระเครื่องให้กับผู้สั่งจองได้ครบตามจำนวน จึงถูกผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.กระทุ่มแบน จนถูกออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
สอบสวน นายพีรพงศ์ให้การรับสารภาพ ได้เข้าสู่วงการให้เช่าและบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคลพระเกจิชื่อดังที่ได้รับความนิยมในสื่อสังคมออนไลน์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 เรื่อยมา เป็นระยะเวลา 2-3 ปี จนเป็นที่รู้จักทั่วไปในวงการผู้ชื่นชอบและนิยมบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก
นายพีรพงศ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ใช้ความน่าเชื่อถือ เปิดเพจหลอกรับจองพระเครื่อง จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าจองพระเป็นจำนวนกว่า 80,000 บาท โดยไม่ส่งสินค้าให้ผู้สั่งจองแต่อย่างใด จนมาถูกจับกุมในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบเคยต้องโทษในลักษณะคล้ายคลึงกัน ในข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.หันคา จว.ชัยนาท เมื่อเดือน เม.ย.ปรที่ผ่านมา จึงขอเตือนภัยไปยังพี่
น้องประชาชน ใครที่มีพฤติกรรมการฉ้อโกงหรือกลโกงในลักษณะเดียวกัน ให้หยุดพฤติกรรมเสียเนื่องจาก ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลาดตระเวนออนไลน์ในสื่อสังคมออนไลน์ ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ให้ดูแลรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อล่าตัวผู้ก่อกระทำผิดมาลงโทษ และขอฝากเตือนประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์อย่างถี่ถ้วน และแน่ชัดเสียก่อน มิฉะนั้นอาจตกเป็น “เหยื่อ” ของเหล่ามิจฉาชีพได้โดยง่าย