เชียงใหม่-สมชื่อสมญานาม “มือปราบยานรก” บิ๊กต๊ะ ผบช.ภ.5 นำทีมด่านแม่พริก จับต่อเนื่องขบวนการขนยานรกหลายล้านเม็ด
เชียงใหม่-สมชื่อสมญานาม “มือปราบยานรก” บิ๊กต๊ะ ผบช.ภ.5 นำทีมด่านแม่พริก จับต่อเนื่องขบวนการขนยานรกหลายล้านเม็ด
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ,นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในด้านการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้สร้างผลกระทบต่อประชาชนและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจังตามแผนปฏิบัติการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาตอนในของประเทศให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 ,พ.ต.อ.พิทักษ์ นาสมวาส รอง ผบก.สส.ภ.5,พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง และ นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ ผอ.ปปส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 3 คน ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด รถยนต์ 3 คัน โดยเป็นการจับกุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก สภ.แม่พริก จว.ลำปาง,ชุดสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน บก.สส.ภ.5 และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น.
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก ได้ตรวจพบรถต้องสงสัยเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการลำเลียงยาเสพติดจำนวน 2 คัน จึงได้กำหนดไว้เป็นเป้าหมายเฝ้าระวังเป็นพิเศษและติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประสานข้อมูลนี้ให้กับ ชุดสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน บก.สส.ภ.5 และ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย
ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 6 มีนาคม 2566 ชุดสกัดกั้นฯและ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวของรถต้องสงสัยในกลุ่มที่เฝ้าติดตามนี้จำนวน 2 คัน ขับติดตามกันในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จึงได้เข้าสกัดแต่กลุ่มขบวนการนี้ไหวตัวได้ขับรถหลบหนีไปได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ากลุ่มขบวนการเพียงหลบเจ้าหน้าที่ชั่วคราวแต่ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ โดยเส้นทางขาล่องเข้ากรุงเทพใน พื้นที่ อ.งาว อ.เกาะคา อ.สบปราบ จว.ลำปาง และจะเข้าสู่พื้นที่ อ.แม่พริก จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก จึงได้นำกำลังไปตั้งจุดสกัดตามเส้นทางรอง บริเวณหน้าตู้ยามแม่ปุ และพบว่ามีรถต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ตรงกับเป้าหมายที่เฝ้าระวังขับเข้ามา จึงได้แสดงตัว แต่ปรากฏว่า รถทั้งสองคันได้จอดและทิ้งรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ขับขี่ได้จำนวน 1 คน อีก 1 คนหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถยนต์ พบยาบ้าของกลางจำนวน 2,032,000 เม็ด จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ขับขี่ ยาบ้าและรถยนต์ของกลางมาที่ สภ.แม่พริก
ระหว่างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่ามีรถต้องสงสัยที่เฝ้าระวังในของขบวนการกลุ่มนี้ ขับเข้ามาในเส้นทางขาขึ้น เชื่อว่าน่าจะมารับตัวผู้ขับขี่รถอีก 1 คนที่หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตั้งจุดสกัดบริเวณหน้าที่ทำการหน่วยป่าไม้แม่พริก และพบรถยนต์ต้องสงสัยเข้ามา 1 คัน และสามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้จำนวน 2 คน ซึ่งปรากฏว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นำทางคันที่จอดรถหลบหนีเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา จึงได้ทำการจับกุมตัวทั้งสองคน และนำส่ง สภ.แม่พริก เพื่อขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่จับกุมตัวได้ รับว่าเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกัน เคยรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม 66 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 โดยทั้ง 2 ครั้ง ได้ขนยาบ้าต้นทางเชียงราย ปลายทางอยุธยา และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยาเสพติดแม่พริกและชุดจับกุมที่มีความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และใช้ความอดทน ในการปฏิบัติหน้าที่ เฉพาะเดือนมีนาคม 2566 ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก ได้จับยาบ้ารวมแล้วกว่า 3 ล้านเม็ด ไอซ์อีกกว่า 300 กก. สำหรับกลุ่มลำเลียงที่จับได้ในคดีนี้จะนำยาบ้าไปพักซ่อนไว้ที่ อ.บางปะอิน อยุธยา จากนั้นจะมีการกระจายเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งเครือข่ายกลุ่มนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับและติดตามยึดทรัพย์ตามกฎหมาย
นายอภิกิต ฉ โรจน์ประเสริฐ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการประชุมทวิภาคีไทย-เมียนมา ด้านการปราบปรามยาเสพติดเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ได้ประสบความสำเร็จในด้านความร่วมมือติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดในประเทศไทยแล้วหลบหนีหมายจับไปอยู่ฝั่งเมียนมา โดยที่ผ่านมาสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดจำนวน 1 หมายจับ และอยู่ระหว่างการติดตามอีกกว่า 50 หมายจับ และขอให้เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลไทย
ผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5
ตั้งแต่ 1 ต.ค.65-10 มี.ค.66
จับกุมคดียาเสพติด
จำนวน 13,783 คดี ในจำนวนนี้เป็นคดีรายสำคัญ จำนวน 72 คดี
ตรวจยึดยาเสพติด
ยาบ้า 68,341,872 เม็ด
ไอซ์ 1,472 กก.
คีตามีน 421 กก.
ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด ประมาณ 377 ล้านบาท