ศาลนาทวี พิพากษาประหารชีวิต “ดต.” ยิงชู้สาว ส่วน ตำรวจเปลี่ยนสำนวนถูกไล่ออกและดำเนินคดีที่ศาลทุจริต ภาค 9
ศาลนาทวี พิพากษาประหารชีวิต “ดต.” ยิงชู้สาว ส่วน ตำรวจเปลี่ยนสำนวนถูกไล่ออกและดำเนินคดีที่ศาลทุจริต ภาค 9
จากกรณีที่มีคนร้ายหลอกโทรนัดหนุ่มออกมาพบที่ถนนซอยปาดังเบซาร์ 5 เข้าไปประมาณ 1 กม.จากถนนสายปาดังเบซาร์ – หาดใหญ่ ต.สะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ต่อมาหนุ่มถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด.357 เข้าที่ศรีษะ หัวไหล่ จำนวน 5 นัด เสียชีวิตคาที่บนถนนสายดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธุ์ พ.ศ.2561 พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จ.สงขลา (ตำแหน่งในขณะนั้น)พร้อมด้วยหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี (70/2561) ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ให้จับกุม ด.ต.สำเริง ศรีนวลชาติ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดสงขลาอีกจำนวนหนึ่งเข้าประสานงานกับ พ.ต.อ.เสกสันต์ แก้วสว่าง ผกก.สภ.สะเดา และชุดสืบของ สภ.สะเดา เข้าทำการแกะรอยสืบจับผู้ต้องหาจนกระทั่งสามารถจับกุมตัว ด.ต.สาเริง นวลศรีชาติ อายุ 51 ปี อยู่ที่ 198/10 ม.8 ถ.เทศบาล 73 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ตามหมายศาลจังหวัดนาทวี ที่ 70/2561 ลง 2 ก.พ. 61 ขณะที่เข้ามาเดินอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา
ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมผู้ต้องหาจับได้ พร้อมได้ตรวจยึดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขย-2813 สงขลา จำนวน 1 คัน,อาวุธปืนพกสั้น สแตนเลส แบบรีวอลเวอร์ ขนาด .357 หมายเลขประจำปืน กท 2208470 จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน ขนาด .357 จำนวน 6 นัด,ซองหนังพกใน สีดำจำนวน 1 ซอง, ถุงพลาสติก (ขนาดใหญ่) สำหรับใส่อาวุธปืนของกลางตามรายการที่ 2-4 จำนวน 1 ใบ,อาวุธปืนพกสั้น แบบโอโตเมติก ยี่ห้อวอลเทอร์ สีดา ขนาด .380 หมายเลขประจำปืน 300155 ไม่ปรากฏเลขหมายทะเบียนปืน จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน ขนาด.380 จำนวน 8 นัด,ซองผ้าพกใน สีดำ จำนวน 1 ซอง เป็นของกลาง
ซึ่งในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้วางแผนฆ่าก่อน 3 วันถึงจะลงมือให้นกต่อโทรหลอกให้ผู้ตายออกมารอ สาเหตุมาจากการที่ผู้ตาย ซึ่งเป็นคนรักเก่าของ น.ส.นันทินีฯ ได้ส่งข้อความมาหา น.ส.นันทินีฯ จำนวนหลายครั้ง ในทำนองเยาะเย้ยถากถาง ด.ต.สาเริงฯ ซึ่งเป็นสามีคนปัจจุบัน และยังส่งภาพของ น.ส.นันทินีฯ กับผู้ตายมาด้วย จึงควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 มกราคม 61 ที่ผ่านมา จนพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนาทวี และในระหว่างดำเนินคดี ได้มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท.โอฬาร (ขอสงวนนามสกุล )ซึ่งเป็น สว.สอบสวน สภ.สะเดา ได้แอบเปลี่ยนสำนวนคำให้การพยานในสำนวน แต่ด้วยภายหลังถูกจับได้ว่ามีการลักลอบเปลี่ยนสำนวนการให้การของพยาน จึงทำให้ พ.ต.ท.โอฬารฯถูกตั้งกรรมการสอบสวน และถูกออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างถูกดำเนินคดีในชั้นศาลทุจริต ภาค 9
และในวันที่ 28 มีนาคม 66 ที่ ศาลจังหวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ที่ บัลลังค์ 5 ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษา คดี ด.ต.สำเริง นวลศรีแก้ว อดีต ตร.กก.สส. ภ.จว.สงขลา ใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบรีวอลเวอร์ ขนาด .357 ยิงนายอำนาจ บินหวัง ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.61 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนถนนในซอยปาดังเบซาร์ 5 ต./อ.สะเดา จว.สงขลา โดยศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ด.ต.สำเริงฯสถานเดียว และให้ริบของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด เนื่องจากจำเลยกระทำผิดขณะเป็น จนท.ตร.และให้การปฏิเสธ โดยคดีมีพยานหลักฐานแน่นหนาว่า ด.ต.สำเริง เป็นผู้กระทำผิดในคดีนี้ โดย จนท.ตร.ชุดสืบสวนจับกุม ประกอบ ด้วย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ 9 (ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา) , พ.ต.อ.เสกสันต์ แก้วสว่าง รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ (ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.สะเดา) พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.สะเดา และชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว. สงขลา ร่วมกันสืบสวนจับกุม ด.ต.สำเริง พร้อมยึดอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก และรถยนต์เก๋ง ของน้องเมีย ด.ต.สำเริง ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 คัน เป็นของกลางในคดี โดยชั้นจับกุม ให้การรับสารภาพว่าให้ คนรักของตนหลอกผู้ตายมาพบแล้วตนใช้อาวุธปืนพกสั้น .357 ที่นำตำรวจยึด ยิงผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิต สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว แต่ในชั้นศาล ให้การปฏิเสธ
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา