กาฬสินธุ์แคชเชียร์หนุ่มสิ้นคิดควงปืนปลอมจี้ชิงเงินล้านธนาคารห้างดังกลางเมืองกาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์แคชเชียร์หนุ่มสิ้นคิดควงปืนปลอมจี้ชิงเงินล้านธนาคารห้างดังกลางเมืองกาฬสินธุ์
ป่วนทั้งห้างดังกลางเมืองน้ำดำ แคชเชียร์หนุ่มปั้มน้ำมันควงอาวุธปืนยาวบุกจี้หวังชิงเงินล้านพนักงานธนาคารกสิกรไทยในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีกลางเมืองกาฬสินธุ์กลางวันแสกๆ ประกาศ “เอาเงินมา 1 ล้าน ผมไม่ทำอะไรหรอก” ท่ามกลางความตกใจของประชาชนและเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก่อนถูก รปภ.รวบตัวแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคุมตัวทำแผนประกอบสารภาพ อ้างติดหนี้พนันออนไลน์ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ใช้ปืนปลอมบุกชิงเงินไปใช้หนี้และคืนบริษัท
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 เวลา16.30 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยุสื่อสาร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด บุกชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีกาฬสินธุ์ จึงรายงาน พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวนและสายตรวจ
โดยพอไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าคนก่อเหตุเป็นชาย โดยถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างสรรพสินค้าและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยกันควบคุมตัวไว้ พร้อมอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุลักษณะคล้ายปืนกลมือ ตรวจสอบเป็นปืนปลอมหรือปืน MP5 ท่ามกลางความตื่นเต้นตกใจของประชาชน และเจ้าหน้าที่ธนาคารที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมานายโยธิน โคตรวงศ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 10 บ้านเหล็ก ต.เหนือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์อยู่ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ จากนั้น ร.ต.อ.หญิงเพ็ญนภา เศษวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ควบคุมนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเบื้องต้น ก่อนควบคุมตัวทำแผนประกอบคำสารภาพ
โดยนายโยธิน กล่าวว่า ตนทำงานเป็นพนักงานแคชเชียร์อยู่ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง แต่ชอบเล่นการพนันออนไลน์ โดยปกติจะนำเงินจากการจำหน่ายน้ำมัน มาเข้าบัญชีของบริษัท ช่วงหลังจะเอาเงินเข้าบัญชีของตัวเอง เพื่อสะดวกในการเล่นพนันออนไลน์ ล่าสุดเล่นพนันเสียเงิน 3 แสน จึงอยากจะได้เงินคืนเข้าบัญชีให้กับบริษัท จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบที่จะชิงเงินธนาคาร จึงสั่งซื้อปืนปลอมมาในราคา 99 บาทและบุกก่อเหตุ โดยซ่อนปืนปลอมพกไว้ที่สะเอว คลุมด้วยชายเสื้อ และขู่ลูกค้าที่มาทำธุรกรรมในธนาคารว่า “เอาเงินมา 1 ล้าน ผมไม่ทำอะไรหรอก” ก่อนที่จะถูก รปภ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ
ด้านนายมงคล ภูยิ่ง อายุ 55 ปี รปภ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า
ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จุดเกิดเหตุนั้น มีลูกค้ามาใช้บริการอยู่ 2 คน ก่อนที่จะสังเกตเห็นผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาและเดินตรงไปหาลูกค้าคนหนึ่ง พร้อมเอาอาวุธปืนออกมาขู่ลูกค้า และพูดกับลูกค้าว่าเอาเงินมา 1 ล้าน ผมไม่ทำอะไรหรอก ทั้งนี้ จากการที่ตนมีประสบการณ์ในการควบคุมสถานการณ์ จากการฝึกฝน ทักษะ และเห็นลักษณะของคนร้าย ซึ่งมองว่าไม่ใช่ปืนจริง และท่าทางไม่น่ากลัว จึงได้เข้าชาร์ตและมีลูกค้าชายอีกคนมาช่วยกันจับตัว ขณะที่พนักงานธนาคารได้กดสัญญาณเตือนภัยแจ้ง 191 ก่อนที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ดังกล่าว