กาฬสินธุ์ไม่จบปัญหาฟาร์มหมูขี้เหม็นเรื้อรังปศุสัตว์-นายทุนเอกชนล่องหน
ชาวบ้านถ้ำปลา ตำบลสหัสขันธ์ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังได้รับความเดือดร้อนจากฟาร์มเลี้ยงหมูเอกชน ที่ยังคงส่งกลิ่นเหม็นรบกวนจนเป็นโรคปวดหัวปวดประสาท ขณะที่การประชุมประเมินสถานการณ์และความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา ปศุสัตว์จังหวัดและผู้จัดการบริษัทเอกชนล่องหน ไม่เข้าประชุม ด้านตัวแทนชาวบ้านระบุ หากการแก้ไขไม่จบในห้วงเวลากำหนด 2 เดือน เตรียมยกระดับร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เนื่องจากเดือดร้อนรำคาญเป็นอย่างมาก
จากกรณีชาวบ้าน 2 ใน ต.สหัสขันธ์ และต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับความเดือดร้อนสาหัส จากกลิ่นเหม็นของขี้หมู ที่โชยออกมาจากฟาร์มเลี้ยงหมูเอกชน 16 ฟาร์ม โดยมีผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ ส่งผลให้สุขภาพจิตเสีย ปวดหัวปวดประสาทและเจ็บป่วยด้วยโรคทางลมหายใจ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรีบแก้ไข ล่าสุดล่ารายชื่อ และร้องทุกข์กล่าวโทษเอกชนและผู้เลี้ยงหมู ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายอำเภอสหัสขันธ์เรียกทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหาทางออก เดทไลน์แก้ปัญหากลิ่นภายใน 2 สัปดาห์และแก้ปัญหาทั้งระบบภายใน 2 เดือน ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม อบต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ ได้ประสานนายธวัชชัย บุญทานันท์ นายก อบต.สหัสขันธ์ ดำเนินการประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา กรณีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศจากฟาร์มเลี้ยงหมู โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ผู้ประกอบการเลี้ยงหมู ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ร่วมประชุม ทั้งนี้ มีรายงานว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือผู้แทนจากปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ หรือผู้จัดการบริษัทเอกชนผู้ให้การส่งเสริมการเลี้ยงหมูเข้าประชุม แต่ได้มอบหมายตัวแทนร่วมประชุมแทน
นายนิติชัย ประเสริฐสุข นักวิชาการส่งเสริม ตัวแทนบริษัทเอกชนส่งเสริมเลี้ยงหมู กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางผู้บริหารของบริษัทรับทราบและให้เร่งดำเนินการแก้ไข โดยในส่วนของการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นในระยะแรก 2 สัปดาห์นั้น มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 60% โดยการเร่งทำม่านน้ำเพื่อดับกลิ่นให้กับฟาร์มหมู ไม่เกิน 45 วันแล้วเสร็จทุกฟาร์ม ควบคู่ไปกับการดับกลิ่นภายในฟาร์มในขณะใช้น้ำล้างคอก และเริ่มระบายจำนวนหมูออกจากฟาร์ม ขณะที่การทำบ่อแก๊ส อยู่ในห้วงดำเนินการ ซึ่งจะแก้ไขให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด
ด้านนายเดือน ไชยสาท อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 บ้านถ้ำปลา หมู่ 3 หนึ่งในชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหากลิ่นขี้หมูเหม็น กล่าวว่าทุกวันนี้กลิ่นเหม็นก็ยังคงมีอยู่ ยังเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และชาวบ้านถ้ำปลาเผชิญอยู่ ตนและชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ขณะที่ผู้ประกอบการหรือตัวแทนบริษัทเอกชนดังกล่าว ไม่ได้เข้ามาพูดคุยหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด มีแต่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายสาธารณสุขเท่านั้น ที่เข้ามาเยี่ยมยามถามไถ่ คอยปลอบขวัญให้กำลังใจ ซึ่งตนและเพื่อนบ้านก็ให้โอกาสในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ หากทางผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในห้วงเวลาที่รับปากไว้ภายใน 2 เดือน ชาวบ้านก็พร้อมที่จะยกระดับการร้องเรียนไปถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับประเทศต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ ปศุสัตว์จังหวัดและผู้จัดการบริษัทนายทุนเอกชนผู้ให้การส่งเสริมเลี้ยงหมู จนเกิดปัญหาส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ชาวบ้านเป็นโรคปวดหัวปวดประสาทมากว่า 2 เดือนไม่ได้มาร่วมประชุมโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาจจะไม่ได้รับการประสานงานก็ไม่ทราบได้ แต่จากการติดต่อทางโทรศัพท์ ปศุสัตว์จังหวัดอ้างว่าลาราชการ ขณะที่ผู้จัดการบริษัทเอกชนไม่สามารถติดต่อได้