กาฬสินธุ์ ชาวบ้านผวาฟ้าผ่าเตรียมทำพิธีสูตรถอดแก้อาถรรพ์
ลือสะพัด ฟ้าผ่าเปรี้ยงวัวตายเกือบยกคอก 5 ตัว ชาวบ้านเชื่อเหตุจากอาถรรพ์ นำสังกะสีและไม้เก่าจากคอกสัตว์เลี้ยง ที่เคยถูกฟ้าผ่ามาสร้าง ซึ่งอาจมีสื่อล่าฟ้าสถิตอยู่จึงเกิดเหตุฟ้าผ่าซ้ำรอย สร้างความสูญเสียอีกครั้ง ระบุบริเวณนี้เป็นทางเทียวหรือทางพาดผ่านของสายฟ้า เตรียมหาฤกษ์ทำพิธี “สูตรถอด” แก้อาถรรพ์ฟ้าผ่าตามความเชื่อชาวบ้าน ด้านนายอำเภอยางตลาด ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมประกาศเตือนอันตรายที่เกิดจากฟ้าผ่า และความเสียหายจากพายุฝน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว
จากกรณีวัวนางปราณี ภูจอมแก้ว ชาวบ้านนางาม ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถูกฟ้าผ่าตายหมู่ 8 ตัว รอดปาฏิหาริย์เพียง 3 ตัว ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าว มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นในชุมชน โดยชาวบ้านเชื่อว่า นอกจากจะเป็นภัยธรรมชาติแล้ว ยังมีเรื่องของอาถรรพ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน
ล่าสุด วันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่ห้องประชุมยูงแดง โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด เป็นประธานประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการ ประจำเดือนมิถุนายน 2566 โดยแจ้งในที่ประชุมเป็นวาระเร่งด่วน คือการแจ้งเตือนภัยและความเสียหายจากฟ้าผ่า พร้อมทั้งให้ความรู้ถึงระเบียบ ข้อกฎหมาย หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสาธารณภัย โดยกำชับให้ผู้เข้าประชุมนำไปประกาศ ให้ชาวบ้านได้รับทราบและปฏิบัติ ในการป้องกันภัยและสาธารณภัยอื่นๆต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่บรรยากาศภายในหมู่บ้านนางาม ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่เกิดฟ้าผ่าวัวนางปราณี ภูจอมแก้ว ตาย 5 ตัว เมื่อกลางดึกวันที่ 29 พ.ค.66 ที่ผ่านมา พบว่าชาวบ้านยังจับกลุ่มวิพากษ์วิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้บ่อยครั้งมาก จากจากนี้ยังการกล่าวถึงอาถรรพ์ฟ้าผ่าอีกด้วย
โดยนางหวัน เหมกุล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 บ้านนางาม ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า บริเวณที่ฟ้าผ่าวัวนางปราณี ภูจอมแก้ว รวมทั้งพื้นที่ในโซนนี้ ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือของบ้านนางาม ถือเป็นบริเวณที่มีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก โดยปีที่ผ่านมาฟ้าได้ผ่าวัวนางปราณีตายไป 1 ตัว ขณะที่ต้นไม้ ไร่มันสำปะหลัง ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ก็เคยถูกฟ้าผ่าติดกันหลายครั้ง จนต้นไม้ยืนต้นตายหลายต้น และต้นมันสำปะหลังตายเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก สำหรับตนซึ่งมีที่นาและที่พักอยู่เยื้องกับคอกวัวนางปราณีนั้น ก่อนหน้านั้นก็รู้สึกกลัวอยู่ แต่พอเกิดเหตุฟ้าในบริเวณใกล้เคียงบ่อยครั้งเข้า ก็รู้สึกชิน แต่ก็ไม่ประมาท เวลาจะเกิดฝนตก ฟ้าคะนอง ก็เข้าไปหลบในที่พัก เพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ อาจมีความกลัวบ้าง เพราะเป็นภัยธรรมชาสติ ที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ทุกเวลา
ด้านนายนาค เหมกุล อายุ 62 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านนางาม ซึ่งเป็นญาตินางปราณีกล่าวว่า ฟ้าผ่าเป็นภัยธรรมชาติ ที่คนเรารวมทั้งสัตว์เลี้ยง ต้นไม้ อาคารบ้านเรือนที่อยู่ใต้ฟ้า ไม่สามารถป้องกันได้ แต่ก็ระมัดระวัง โดยเมื่อเวลาจะเกิดฝนตก ฟ้าคะนอง ไม่ไปอยู่ในที่โล่งแจ้ง หรือไม่พกพาวัตถุ อุปกรณ์ที่เป็นสื่อล่อฟ้า และเข้าไปหลบอยู่ในบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ในส่วนที่ฟ้าผ่าบริเวณใกล้เคียง พบว่าผ่าบ่อยครั้งมาก รวมทั้งผ่าวัวนางปราณีเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักในไร่มันสำปะหลังตนประมาณ 30 เมตร ทำให้ตนรู้สึกกลัว จนเวลาที่ฝนทำท่าจะตก หรือมีเสียงฟ้าร้อง ไม่กล้าอยู่เฝ้าไร่เฝ้านา ก็รีบเข้าหมู่บ้านทันที เพราะกลัวฟ้าผ่า
นายนาคกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีฟ้าผ่าวัวนางปราณี ปีที่แล้วเคยถูกฟ้าผ่าตาย 1 ตัว นางปราณีจึงได้ย้ายคอกวัวมาสร้างคอกวัวใหม่ โดยนำสังกะสี และไม้จากคอกวัวเดิมมาสร้าง ก่อนที่เมื่อวันที่ 29 พ.ค.66 ที่ผ่านมา จะเกิดฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง เป็นเหตุให้วัวตายทันที 5 ตัว รวมลูกในท้องอีก 3 ตัวเป็น 8 ตัวดังกล่าว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เชื่อว่า นอกจากฟ้าผ่าจะเป็นภัยธรรมชาติ เนื่องจากเป็นทางเทียวของสายฟ้า หรือเป็นทางพาดผ่านของฟ้าผ่าแล้ว ตนและชาวบ้านหลายคนยังมีความเชื่อว่า เป็นเพราะอาถรรพ์ฟ้าผ่าแน่ๆ
“ที่ว่าเป็นอาถรรพ์ เพราะว่านำสังกะสีเก่าและไม้เก่าที่เคยถูกฟ้าผ่ามาสร้างอีก ซึ่งวัสดุทั้ง 2 อย่างอาจจะมีสื่อล่อฟ้าสถิตอยู่ในนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านโดยทั่วไปมีความเชื่อว่า ต้นไม้หรือสิ่งของที่เคยถูกฟ้าผ่า จะไม่นำมาใช้ประโยชน์อีก ถือเป็นสิ่งของอัปมงคล ทั้งนี้ กรณีฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นล่าสุด โดยผ่าวัวนางปราณีตาย ญาติๆก็จะพากันประกอบพิธีสูตรถอด เพื่อเป็นการแก้เคล็ดและล้างอาถรรพ์ตารมความเชื่อในโอกาสต่อไป” นายนาคกล่าว