เจ้าหน้าที่รัฐอยู่ไหน ทำไม่ถึงปล่อยให้ ปั้มน้ำมันเถื่อนเปิดกลางเมือง ลดราคาลิตรละ 3 บาท แข่งกับปั๊มที่ขายน้ำมันถูกต้อง โดยการ “จ่ายส่วย”ให้ พ.ต.ท. คนหนึ่ง ลิตรละ 50 สตางค์

ผู้สื่อข่าวศูนย์หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับการร้องเรียนจาก พลเมืองดี ที่ขอปิดชื่อ และนามสกุล ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต เจ้าหน้าที่พลังงาน และ ตร.ปนม. หรือ ตำรวจชุด ปราบปรามน้ำมันเถื่อน ไปตรวจสอบ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นปั๊มขนาดกลาง ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย ซึ่งขึ้นป้ายจำหน่ายน้ำมันดีเซลในราคาลิตรละ 28.59 บาท ในขณะที่ ปั้มน้ำมันอื่นๆ เช่น ปตท.,เอสโซ่,คาลเท็กซ์ และ พีที ขายที่ลิตรละ 32 บาทเศษ โดยมีรถยนต์บรรทุก และรถกระบะ จำนวนมาก ที่เข้าไปใช้บริการ

สำหรับปั้มดังกล่าว เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมหลายครั้ง เคยมีการยึดน้ำมันได้ทั้งคันรถบรรทุก 10 ล้อ และเคยฟ้องร้อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จนสุดท้ายมี พ.ต.ท.นายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็น”หน้าเสื่อ” ในการ เคลียร์ ระหว่าง เจ้าของปั๊ม กับเจ้าหน้าที่ และมีการ”จ่ายส่วย” จากการขายน้ำมันเถื่อนลิตรละ 50 สตางค์ และหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ก็ไม่เคยเข้าไปทำการ ตรวจสอบ หรือ จับกุม อีกเลย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ สรรพสามิต จ.ตรัง และ ตร.ปนม. ได้ทำการ ตรวจจับรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นของ”โก ร” ผู้ค้าส่งน้ำมันรายหนึ่ง และเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ตรวจพบมีน้ำมันอยู่ในรถบรรทุก 10 ล้อ 12,000 ลิตร และนำไปเปรียบเทียบปรับที่ สำนักงาน สรรพสามิตเพียง 5,000 ลิตร ซึ่ง “โก รอ.” ให้การว่าซื้อน้ำมันทั้งหมดมาจากปั้มของ “นายหัว ร” จาก ปั้มน้ำมันที่ขายในราคาถูกที่ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช แต่หลังจากช่วยเหลือให้ เจ้าของน้ำมันเถื่อน เสี่ยค่าปรับเพียง 5,000 ลิตร แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทำการ สืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย กับ ปั๊มน้ำมันที่ขายน้ำมันเถื่อนแต่อย่างใด

เรื่องของการ ขายน้ำมันเถื่อน ในราคาถูก กลางเมือง เพื่อแข่งขันกับน้ำมันถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากจะมีพลเมืองดี ส่งหลักฐาน เช่นบิลน้ำมันที่เข้าไปเติม และนำน้ำมันที่ซื้อมาส่งส่งตรวจที่ศูนย์วิเคราะห์แลปสรรพสามิต ภาค 9 แล้ว ยังมีเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ร้องทุกข์ว่า ได้รับความไม่เป็นธรรม จากการที่ เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ ปั๊มน้ำมันหลายแห่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช นำน้ำมันเถื่อนมาขายในราคาถูก เป็นการแย่งลูกค้า พวกตนที่เปิดปั๊มขายน้ำมันถูกต้องตามกฎหมาย ลงทุนสร้างปั๊มแห่งละหลายสิบล้าน ต้องเสียภาษีมากมายซ้ำซ้อนให้กับรัฐ แต่รัฐกลับปล่อยให้มีการเปิดปั๊มขายน้ำมันเถื่อนแข่งกับพวกตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม

พวกเรา เจ้าของปั๊มที่ถูกต้อง ซื้อน้ำมันจากคลังน้ำมันที่ อ.สิงหนคร และที่ คลังน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี ในราคาลิตรละ 31 บาทกว่า แต่ปั๊มน้ำมันที่ขายน้ำมันในราคาลิตรละ 28.59 บาท เอาน้ำมันมาจากไหน ถ้าไม่ใช่เป็นน้ำมันเถื่อน ที่มาจากทางทะเล ซึ่งเป็นที่รู้กันทั้ง จ.นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี ว่า ผู้ค้าน้ำมันเถื่อน ซื้อมาจาก “เสี่ย สมชาย “ เป็นน้ำมันเรือที่ขึ้นจาก อ.หัวไทร. จ.นครศรีธรรมราช และของ”เสี่ย เอก, ที่ขึ้นจากทะเลใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และบางส่วนเป็นของ”โกเอี้ยง” ที่ขึ้นจาก อ.กาษจณดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และของ นักการเมืองท้องถิ่น คนหนึ่งของ จ.สุราษฎร์ธานี เช่นกัน

สำหรับ”โกเอี้ยง” ท่าอุแท เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ถูก เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.นครศรีธรรมราช จับกุม รถบรรทุก 10 ล้อ โดยมีน้ำมันดีเซลในรถ 15,000 ลิตร ขณะที่เตรียมน้ำส่งให้ลูกค้าที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่รถบรรทุกน้ำมันเถื่อนวิ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งผลการพิสูจน์พบว่าเป็นน้ำมันเถื่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการเปรียบเทียบปรับและปล่อยให้น้ำน้ำมันไปขายตามกปติ

และในวันที่ 13 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และ สรรพสามิตนครศรีธรรมราช และ ศุลกากร อ.สิชล ได้จับกุมเรือประมงดัดแปลงกลางทะเลอ่าวไทย ห่างจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ยึดได้น้ำมันเถื่อน 100,000 ลิตร ราคาประมาณ 3 ล้านบาท ขณะเตรียมลำเลียงขึ้นฝั่ง เพื่อขายให้กับลูกค้า ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าเป็นน้ำมันเถื่อนในกลุ่มของ “เสี่ยเอก” ที่เป็น ขบวนการค้าน้ำมันรายใหญ่ทางทะเลอ่าวไทย

ผู้ประกอบการค้าน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมายในภาคใต้ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ค. หลังรัฐบาลไม่ต่ออายุเพื่อลดการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลกับกรมสรรสามิตร ที่ลดภาษีให้กับผู้ใช้น้ำมันลิตรละ 5 บาท ราคาน้ำมันหลังวันที่ 21 ก.ค. จะมีการปรับตัวสูงขึ้น และเชื่อว่าเป็นโอกาสทองของ ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้ ในการนำน้ำมันทางทะเลอ่าวไทยขึ้นฝั่ง เพื่อให้ให้กับ ปั๊มน้ำมัน และ กิจการต่างๆ ที่ต้องใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งจะส่งผลกระทบกับปั๊มที่ขายน้ำมันถูกต้องตามกฎหมาย เพราะประชาชนชอบน้ำมันราคาถูกที่ส่งผลสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงวิงวอนให้ เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ ปั๊มน้ำมันที่ ขายน้ำมันในราคาถูก เพื่อ จับกุม เพราะเป็นน้ำมันที่ผิดกฎหมายแน่นอน