สงขลา-ปลัดจังหวัดสงขลาเรียกประชุมกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาและสมาคมฮกเกี้ยนสงขลาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น กว่า 3 ชั่วโมงก็ไม่ได้ข้อยุติ
สงขลา-ปลัดจังหวัดสงขลาเรียกประชุมกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาและสมาคมฮกเกี้ยนสงขลาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น กว่า 3 ชั่วโมงก็ไม่ได้ข้อยุติ
ที่ ห้องประชุม CEO ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์สุริยะวงศ์ปลัดจังหวัดสงขลาได้เรียกประชุมคณะกรรมการสมาคมฮกเกี้ยนสงขลาและกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาที่เกิดปัญหาขัดแย้งกันในหลายๆเรื่องไม่สามารถตกลงกันได้ มีการรวมตัวของชาวบ้านที่เห็นความไม่โปร่งใสของกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจนลุกลามไปปิดศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา และมีการตัดกุญแจเพื่อเปิดศาลให้ประชาชนเข้าไปสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาแต่ทางชุมชนเห็นว่าเรื่องมันยังไม่จบจึงได้มาทำการปิดศาลเจ้าใหม่อีกครั้ง
โดยท่านปลัดจังหวัดสงขลาได้ให้ทางคณะกรรมการสมาคมฮกเกี้ยนสงขลาได้พูดถึงปัญหาต่างๆที่มีข้อสงสัยให้ทางกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองชี้แจงโดยกรรมการสมาคมฮกเกี้ยนได้มีการสอบถามถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ที่พบกลุ่มกรรมการบางคนไม่ โปร่งใสในการบริหารจัดการทั้งเรื่องการเปิดรับบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวในระยะเวลากว่า 2 ปีที่เข้ามาบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยประเมินมูลค่าเงินหมุนเวียนที่ได้รับบริจาคมากถึงเกือบ 50 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการลาออกของคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อสรรหามาแล้ว 2 ครั้ง แต่ปรากฎว่ากรรมการชุดเดิมได้มีการยื่นคัดค้านการแต่งตั้งกรรมการชุดล่าสุด เนื่องจากอ้างว่าสรรหาไม่ถูกระเบียบของกฎเสนาบดีปี 2463 ที่ยึดถือกันมาจึงทำให้ปัญหายืดเยื้อไม่ได้ข้อยุติ มีหลักฐานในการยักยอกเงินบริจาคจากตู้บริจาคของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา รวมทั้งล่าสุดคณะกรรมการได้ไปเบิกเงินจากธนาคาร 300,000 บาทโดยขอคำตอบว่าเบิกเอาไปทำอะไร
นายชัยพฤกษ์ ณ สงขลา หรือคุณจอย ผู้ตรวจการศาลพ่อหลักเมืองสงขลาในฐานะผู้ถือกุญแจตู้บริจาค ได้มีการชี้แจงให้ที่ประชุมได้ทราบในเรื่องต่างๆ แต่ตลอดเวลา มีการโต้แย้งกันทั้งสองฝ่าย โดยไม่มีข้อยุติที่จะจบปัญหาลงได้ จนต้องใช้เวลาในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง จึงสรุปได้ว่า ในการจัดงานสมโภชน์ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ปี 2567 ซึ่งจะจัดในวันที่ 27 มิถุนายน ถึงวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นี้ สมาคมฮกเกี้ยนสงขลาและศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาจะต้องร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นมา ร่วมกับเทศบาลนครสงขลา ส่วนเรื่องความขัดแย้งคงต้องรอให้งานสมโภชน์ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ผ่านพ้นไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ตามระเบียบของกฎเสนาบดีปี 2463 ที่ยึดถือกันมา
ในขณะเดียวกัน นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ก็ได้กล่าวทิ้งท้าย เป็นข้อคิดเตือนใจทั้งสองฝ่ายว่า ขอฝากทางจังหวัดให้เอาระเบียบมาว่ากัน ส่วนเรื่องข้อโต้แย้งใครถูกใครผิดก็ให้ไปสอบสวนเอาและขอฝากไว้ว่า อย่าเอาข้อขัดแย้งมาทำลายชื่อเสียงที่บรรพบุรุษของเราสร้างมา 182 ปี สงขลาผมเกิดที่นี่ เป็นคนที่นี่ อากงคุ้มครองไม่เคยมีพิษภัย ผมฝากเรื่องนี้ว่า “คิดดีได้ดี คิดชั่วได้ชั่ว” อย่าเอาอากงมาล้อเล่น แล้วเอาชื่อเสียงของสงขลาไปทำลาย ในข้อขัดแย้งที่ไม่สามารถจะลงตัวกันได้ เมื่อวานคนจากยะลามา 400 กว่าคน มาดูงานที่เทศบาลนครสงขลาผมพาไปดูที่นางเงือก ไปดูแหลมสมิหลา ไปเยี่ยมชมย่านเมืองเก่าไปสักการะศาลหลักเมืองเข้าไม่ได้ “อย่าเอาความขัดแย้งมาทำลายบ้านเมือง” ผมลูกจีนเหมือนกัน เตี่ยผมเคยดูแลศาลเจ้ามา ทุกคนเคารพสักการะศาลเจ้าทั้งหมด ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องตกลงกันไม่ได้ ผมฝากจังหวัดเอากฎเสนาบดีมา แล้วก็หาทางแก้ไขอย่าให้บ้านเมืองเราเสียหายมากกว่านี้ ยะลามา 400 คนถามว่าเกิดอะไรขึ้นและไอ้คำว่า นี่การทุจริตอะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องเขียนป้ายประจานให้คนอื่นเขารู้ ไปว่ากันเอาเอง เป็นภาพที่ไม่ดีมาก ถ้าคุณรักบ้านเมือง รักอากง อย่าทำร้ายอากงให้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ อย่าทำลายอากงให้มีมลทินมัวหมอง ผมฝากไว้แค่นี้ในนามนายกเทศมนตรีนครสงขลา
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา