สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา “วันวิสาขบูชา” 22 พฤษภาคมนี้ กำชับตำรวจทั่วประเทศตรวจตราเข้มงวด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือนห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา “วันวิสาขบูชา” 22 พฤษภาคมนี้ กำชับตำรวจทั่วประเทศตรวจตราเข้มงวด
วันนี้ (21 พฤษภาคม 2567) พล.ต.ต.หญิง สมพร พูลเกษม ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เปิดเผยว่า ด้วยวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เป็น“วันวิสาขบูชา” และมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยรับผิดชอบควบคุม กำกับ ดูแล ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
วันวิสาขบูชาปีนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) สั่งการหน่วยต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายในวันสำคัญทางศาสนาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ได้กำชับให้สถานีตำรวจทุกแห่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ประกอบการ ร้านค้าทุกประเภท ทั้งร้านค้าในชุมชน ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการลักษณะที่คล้ายสถานบริการ ให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งชนิดขายส่งและขายปลีกทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 00.01 – 24.00 น. ของวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ หากผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 39 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดที่ฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น การขาย การดื่มในสถานที่ห้าม และการขายให้แก่บุคคลที่ห้ามขาย โดยให้เน้นการตรวจตราร้านข้ามต้มโต้รุ่ง คาราโอเกะ ร้านอาหารตามสั่งริมทาง บริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง วัด หรือสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ อย่างจริงจังและเคร่งครัดพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเต็มกำลัง ในการออกตรวจและจับกุมผู้กระทำความผิดเมื่อได้รับการร้องขอ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ใช้กิริยาวาจาที่สุภาพเหมาะสม กวดขันจับกุมหากปรากฏการกระทำผิดซัดเจน โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติให้เกิดความเรียบร้อย และขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง