“ผู้ช่วยสำราญ ” แถลงผลงาน ตำรวจ ปส. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สกัดจับและปฏิบัติการปิดล้อมทลายเครือข่ายได้ผู้ต้องหา 22 คน พร้อมยึดทรัพย์กว่า 160 ล้านบาท“
“ผู้ช่วยสำราญ ” แถลงผลงาน ตำรวจ ปส. ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สกัดจับและปฏิบัติการปิดล้อมทลายเครือข่ายได้ผู้ต้องหา 22 คน พร้อมยึดทรัพย์กว่า 160 ล้านบาท“
ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ
วันนี้ 4 ก.ค.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญนวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.,พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว,พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญของ บช.ปส. ในห้วงของวันที่ 9 – 30 มิ.ย.67ดังนี้
ผลการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
คดีที่ 1 บก.สกส.
สืบเนื่องจากการจับกุมคดียาเสพติด 4 คดี ผู้ต้องหา 14 คน พร้อมของกลางยาบ้า 17,040,000 และ ไอซ์ 200 กิโลกรัม ตำรวจ สกส.บช.ปส. ได้ตรวจสอบพบจุดที่รับยาเสพติดและผู้ร่วมขบวนการอยู่ในพื้นที่ จว.พะเยา และ จว.เชียงราย จึงขยายผลตรวจสอบเพื่อยึดอายัดทรัพย์สิน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นที่มาของการเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น DID ATTACK 67 จำนวน 4 เครือข่าย 10 จุดตรวจค้น เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.67 ซึ่งตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ กก.ปพ.บช.ปส. และตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด รายสำคัญ 4 เครือข่าย จำนวน 10 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.พะเยา และจว.เชียงราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน คือ น.ส.โสรยา บุคคลตามหมายจับ 3 หมายจับ, นายวันรพ บุคคลตามหมายจับ 1 หมายจับ และ นายจักรกฤษ บุคคลตามหมายจับ 1 หมายจับ ในข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแร้งเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่าย 150 รายการ อาทิ อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 2 คูหา, บ้านพร้อมที่ดิน 3 หลัง, ที่ดิน จำนวน 24 แปลง, รถยนต์ จำนวน 6 คัน, รถแทรกเตอร์ 1 คัน, รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน, บัญชีธนาคาร จำนวน 10 บัญชี, ทองคำรูปพรรณ จำนวน 3 เส้น, อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก, กระสุนปืน จำนวน 96 นัด และ อื่น ๆ รวมมูลค่ายึดทรัพย์กว่า 115,587,000 บาท
คดีที่ 2 บก.ปส.3 ผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด ระหว่างวันที่ 21 – 28 มิถุนายน 2567
1. ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ล้างบางองค์กรยานรก” สืบเนื่องหลังจับกุมคดียาเสพติด 5 คดี ผู้ต้องหา 19 คน พร้อมยาบ้า 21,850,000 เม็ด ไอซ์ 300 กิโลกรัม ในพื้นที่ จว.เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี และปทุมธานี ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 จึงขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและยึดทรัพย์สิน จนนำไปสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่าย จำนวน 20 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ ภ.5, ภ.9 และ กทม. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 คน ของกลางยาบ้า 4,279 เม็ด, ไอซ์ 50 กรัม ยึดอายัดทรัพย์สินเป็น สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน 5 รายการ, รถยนต์จำนวน 3 คัน, ทองรูปพรรณ 12 รายการ, อาวุธปืน 9 กระบอก และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 23,687,900 บาท
2. ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ลาดตระเวนออนไลน์และโลจิสติกส์” ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ได้สืบสวนกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ที่ลักลอบจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และสถานบันเทิง รวมทั้งที่ลักลอบส่งยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่งและพัสดุภัณฑ์ ไปยังต่างประเทศ ซึ่งสามารถรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ 3 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายเขางู จว.ราชบุรี ซึ่งจำหน่ายยาเสพติดผ่านสื่อออนไลน์, เครือข่าย “จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท” (Candy Fun) ทางสื่อโซเชียล และสถานบันเทิง และเครือข่าย “ลักลอบส่งยาเสพติดทางพัสดุไปต่างประเทศ” จนนำไปสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ กทม. จำนวน 4 จุดตรวจค้น และพื้นที่ อำเภอเมือง จว.ราชบุรี จำนวน 4 จุดตรวจค้น รวม 8 จุดตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 ราย ของกลางยาบ้า 100 เม็ด รวมทั้งยึดอายัดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ 2 คัน, เงินสกุลอังกฤษ, หุ้นทอง และเงินสดจำนวนหนึ่ง มูลค่าทรัพย์สินรวม 1,788,000 บาท
3. ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ทลายเครือข่ายนักบินชายแดน” ตามที่รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน พื้นที่ นบ.ยส.35 เพื่อลดปัญหาการนำเข้ายาเสพติดรุนแรงในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน และตาก 18 อำเภอนั้น ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ทลายเครือข่ายนักบินชายแดน” เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.67 ในพื้นที่ อ.แม่แตง, อ.เวียงแหง, อ.เชียงดาว, อ.พร้าว ของ จว.เชียงใหม่ รวม 14 จุดตรวจค้น ออกหมายจับ 12 หมายจับ และยึดอายัดทรัพย์สิน 3 รายการ คือ สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดินจำนวน 2 รายการ, รถยนต์กระบะจำนวน 1 คันมูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท
4. ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “แก้ปัญหายาเสพติด และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ จว.น่าน”
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ไขปัญหาในพื้นที่เพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข ลดผลกระทบจากภัยทุกรูปแบบโดยเฉพาะยาเสพติด อาชญากรรม และความปลอดภัยในทุกด้าน โดยมีพื้นที่นำร่องในอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้สืบสวนขยายผลหลังจับกุม ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมยาบ้า 8 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ล่าสุดลงพื้นที่ออกหมายจับ 10 หมายจับ จำนวน 9 คน รวม 9 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จว.น่าน ประกอบด้วย อ.แม่จริม, อ.เมือง, อ.ปัว, อ.เวียงสา จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน ของกลางยาบ้า 9 เม็ด และยึดอายัดทรัพย์ จำนวน 850,000 บาท
2. ปส.2
คดีที่ 3
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 18.00 น.ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ทำการขยายผลหลังจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 3 ล้านเม็ด ได้ที่ อ.คง จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 มี.ค.67 ซึ่งพบว่าเครือข่ายนี้ยังคงเคลื่อนไหวและต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จนวันที่ 9 มิ.ย.67 ประมาณ 01.30 น. ชุดจับกุมทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน อ.ธาตุพนม จว.นครพนม กระทั่งพบรถยนต์เป้าหมายในขบวนการลำเลียงยาเสพติด เคลื่อนตัวจาก อ.เรณูนคร จว.นครพนม มุ่งหน้า อ.นาแกจว.นครพนม ตามถนนทางหลวงหมายเลข 223 จึงสะกดรอยติดตามเมื่อมาถึงบริเวณ สามแยกไฟแดงบ้านโนนหอม ต.โนนหอม อ.เมืองจว.สกลนคร และรถจอดติดสัญญาณไฟจราจร ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเพื่อตรวจสอบพบนายสุธิพร อายุ 24 ปี เป็นผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ผค 38xx ราชบุรี ภายในรถพบกระสอบ 15 กระสอบ ภายในมียาบ้า รวม 6,202,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตู้บรรทุกสินค้า
คดีที่ 4
สืบเนื่องจาก ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้จับกุมนายนัฐพงศ์ รวมพวก 3 คน พร้อมยาบ้า 12 ล้านเม็ด ได้ที่ริมถนนมิตรภาพใกล้หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จว.นครราชสีมา เมื่อ 24 ม.ค.67 ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 26 มิ.ย.67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ตรวจพบรถเป้าหมายเฝ้าระวังได้ขับขี่เข้าไปในพื้นที่ จว.หนองคาย โดยใช้เส้นทางรอง จึงจัดกำลังเฝ้าติดตามผ่านพื้นที่ จว.สกลนคร – กาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด – สุรินทร์ เข้าเขตพื้นที่ ต.นางรอง อ.นางรอง จว.บุรีรัมย์ พบรถกระบะ และรถยนต์ ต้องสงสัยจอดในลักษณะผิดปกติบริเวณหน้าร้านข้าวต้ม ชุดจับกุมจึงนำกำลังเข้าสกัดไว้ทันทีพบนายวิทวัส อายุ 32 ปี ขับขี่รถกระบะ หมายเลขทะเบียน บห 58xx สกลนคร ตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า จำนวน 2,700,000 เม็ด ส่วนรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กฉ 7605 สกลนคร มีนายพงษ์พิชญ์ อายุ 39 ปี เป็นผู้ขับขี่ มีนายพงษ์ศักดิ์ อายุ 44 ปี โดยสารมาด้วย ทำหน้าที่ขับรถสำรวจและนำเส้นทางรถลำเลียงยาเสพติด
คดีที่ 5
จากการขยายผลการจับกุมนายนัฐพงศ์ รวมพวก 3 คน พร้อมยาบ้า 12 ล้านเม็ด เมื่อ 24 ม.ค.67 ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ตำรวจได้ตรวจพบรถเป้าหมายขณะเคลื่อนตัวออกจาก อ.สว่างแดนดิน จว.สกลนคร จึงนำกำลังติดตาม โดยกลุ่มเครือข่ายพยายามขับรถตามเส้นทางรอง เพื่อหลบหนีการตรวจสอบป้ายทะเบียน จนสามารถจับกุมตัว นายธาดาพงษ์ หรือกอล์ฟ อายุ 32 ปี ขณะขับขี่รถกระบะ หมายเลขทะเบียน ฆช 4193 กรุงเทพมหานคร ได้ที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จว.นครราชสีมา ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้ารวมจำนวน 1,500,000 เม็ด
คดีที่ 6
สืบเนื่องจากการจับกุม น.ส.ณัฐภัค กับพวก 4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 50 กก., เคตามีน 50 กก. ใน อ.บำเหน็จณรงค์ จว.ชัยภูมิ เมื่อ 10 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ทำการขยายผลและพบว่าเครือข่ายยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 19 มิ.ย.67 ตรวจพบรถเฝ้าระวังเข้ามาในพื้นที่ อ.โพนพิสัย จว.หนองคาย กำลังตำรวจจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและคัดกรองรถ ที่ผ่านพื้นที่ จว.อุดรธานี – ขอนแก่น จนมาถึง ถนนมิตรภาพ กม.193 (ขาเข้ากรุงเทพฯ) ในพื้นที่ ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จว.นครราชสีมา และสามารถสกัดจับรถกระบะ ISUZU DMAX หมายเลขทะเบียน ผผ 4908 อุบลราชธานี พร้อมคนขับคือนายปฏิวัติ อายุ 26 ปี และผู้โดยสารคือ นายอดิศักดิ์ อายุ 27 ปี ตรวจค้นในรถพบไอซ์ จำนวน 400 กก. ซุกซ่อนในห้องโดยสาร
3. บก.ปส.1
คดีที่ 7 จับกุมเครือข่าย “ต้า ท่าขี้เหล็ก” ตามแผนปฏิบัติการตามล่า 100 เครือข่าย
สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 สืบสวนพบกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดออนไลน์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะขึ้นไปลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือมาจำหน่าย และส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก กระทั่งวันที่ 29 มิ.ย.67 พบรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน 1ฒก 81xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเฝ้าระวังกำลังขับลงมาจาก จว.เชียงราย ผ่าน จว.พะเยา-ลำปาง-แพร่-พิษณุโลก-พิจิตร-นครสวรรค์ พอมาถึงด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ตำรวจได้เรียกเพื่อขอทำการตรวจค้นพบนายวันชัย หรือเปา เป็นคนขับ และทำการตรวจค้นรถด้วยการใช้เครื่องเอกซเรย์ พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ใต้พื้นกระบะ จึงทำการรื้อถอนโครงสร้างพบเป็นไอซ์ ลักษณะ เป็นก้อนรวมจำนวน 89 กก. ซุกซ่อนไว้ในช่องลับที่ทำการดัดแปลง ด้าน นายวันชัย ยอมรับว่าเตรียมนำรถที่มียาเสพติด ไปจอดทิ้งไว้โดยจะมีนายอาทิตย์ มารับช่วงต่อ บริเวณตลาดพระปิ่น 3 อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี ตำรวจจึงวางแผนนำไปจอดตามนัดหมาย กระทั่งพบรถต้องสงสัยเป็นกระบะ หมายเลขทะเบียน 3ขร 69xx กทม. ลักษณะขับวนเข้า-ออกลานจอดรถหลายรอบ ตำรวจจึงนำกำลังติดตามไปยังบริเวณลานจอดปั๊มน้ำมันเชลล์ อ.บางบัวทอง จว.นนทบุรี จึงแสดงตัว ขอตรวจค้น ทราบชื่อคือนายเปา หรือนายอาทิตย์ รับสารภาพว่าจะมารับรถยนต์ที่ซุกซ่อนยาเสพติด
เพื่อจะนำยาไปพักไว้ที่บ้านเลขที่ 119/110 หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 19 หมู่ 3 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จว.นนทบุรี ตามสั่งการ ตำรวจจึงขยายผลนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านดังกล่าวพบยาเสพติดเพิ่มเติมเป็น ไอซ์ 35 กิโลกรัม, เฮโรอีน 5.6 กิโลกรัม และ คีตามีน 28 กิโลกรัม สอบสวน นายวันชัย ระบุว่าตนเองได้รับคำสั่งจากนายต้าให้ลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือ มาส่งให้กับนายอาทิตย์ ทำมาแล้วจำนวน 5-6 ครั้ง ขณะที่ นายอาทิตย์ หรือเปา ระบุว่าได้รับคำสั่งจากนายต้า ให้นำรถที่บรรทุกยาเสพติดนำมาเก็บเข้าโกดัง เมื่อเสร็จแล้วก็นำรถไปคืนให้นายวันชัยเพื่อนำรถไปลำเลียงยาเสพติดในรอบต่อไป ทั้งนี้ สามารถตรวจยึดเงินสด และเงินในบัญชีหมุนเวียน จำนวน 5,000,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างออกหมายจับผู้สั่งการ ผู้ร่วมขบวนการที่นำยาเสพติดกระจายในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และส่งออกไปยังต่างประเทศ
สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 1,076คดี / ผู้ต้องหา 1,436 คน ของกลางเป็นยาบ้า 327,433,971 เม็ด, ไอซ์ 7,326 กก., เฮโรอีน 406 กก.,คีตามีน 2,109 กก. และ ยาอี 2,005 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 3,616 ล้านบาท