พังงา-เฮ!!กรรมาธิการที่ดินฯสภาผู้แทนฯลงพื้นที่ขุมน้ำถ้ำทองหลางพบเขตป่าไม้เตรียมรื้อถอนลวดหนามคืนสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน เบรกขออนุญาตเหมืองหินที่ใหม่รอผลกระทบชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนบ้านในวัง หมู่ 4 ต.ถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะกรรมาธิการ และคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ คณะกรรมการตรวจสอบข้อพิพากกรณีแหล่งท่องเที่ยวขุมน้ำถ้ำทองหลาง หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ที่ดินจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ป่าไม้จังหวัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ปลัดอำเภอทับปุด ฝ่ายปกครองอำเภอทับปุด กลุ่มรักษ์บ้านเกิด ประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมประชุมข้อพิพากษ์ กรณีที่ดินขุมน้ำถ้ำทองหลาง ต.ถ้ำทองหลาง อ.ทับปุด จ.พังงา ซึ่งมีประเด็นเรื่องการตรวจสอบที่ดินขุมน้ำดังกล่าว แนวโน้มการขอสัมปทานใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับขุมน้ำถ้ำทองหลาง เกิดขึ้นจากการทำเหมืองหิน จนเป็นขุมน้ำมีสีฟ้าในช่วงหน้าแล้งและสีเขียวมรกตในช่วงหน้าฝน และทิวทัศน์สวยงามท่ามกลางหน้าผาหิน ได้รับฉาบาว่า สวิตเซอแลนด์เมืองไทย ทำให้มี พ่อค้า แม่ค้า ในพื้นที่เข้าเปิดแผงตั้งร้านจำหน่ายสินค้า ต่อมาทางเอกชนอ้างกรรมสิทธิ์ที่ดิน นส.3 เลขที่ 130 และ 136 ออกให้ในปี 2514 กระทั่งมีการให้ที่ดินเข้ารังวัด ที่ดิน นส.3 เลขที่ 136 เพื่อออกเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก เลขที่ 48 จำนวน 38 ไร่ 12 ตารางวา ในปี 2552 จากนั้นทางเจ้าของที่ดินได้ขอสัมปทานเหมืองหิน ในปี 2557 – 2567 เสนอทาง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา โดยมีทางที่ดินอำเภอทับปุดรับรองว่าอยู่ในเขตที่ดิน นส.3 ก ทางอุตสาหกรรมพังงา

จึงได้อนุญาตให้ทำเหมืองหินได้ โดยไม่ทราบว่าเหมืองหินที่ทางเอกชนขอสัมปทาน เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไม่ใช่ที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ที่อ้างถึง ขณะที่มีการรังวัดจากสำนักงานที่ดินจังหวัดจนทราบว่าที่ดินเอกสารสิทธิ์ห่างจากจุดขุมน้ำระยะกว่า 300 เมตร โดยทางป่าไม้จังหวัดพังงา เตรียมเข้ารื้อถอนแนวรั้วลวดหนามและเสากั้นเขต พร้อมเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของทางป่าไม้
ในส่วนที่ภาคเอกชนเตรียมยื่นขออนุญาตทำเหมืองหินใหม่ในพื้นที่บ้านในวัง ท่ามกลางเสียงคัดค้านของชาวบ้านในพื้นที่ ทางกรรมาธิการได้สอบถามรายละเอียด พบว่าขั้นจตอนการขออนุญาตยังอยู่ในระหว่างเริ่มต้น ส่วนประกาศทางสำนักงานอุตสาหกรรมเป็นเพียงประกาศเขตพื้นที่ที่สามารถทำเหมืองหินได้เท่านั้นไม่ได้เป็นใบอนุญาตการทำเหมืองหิน ซึ่งต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ ขอความเห็นชอบในพื้นที่ ผ่านกระบวนการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ทางด้าน นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบที่ดินขุมน้ำถ้ำทองหลาง ที่ถูกภาคเอกชนปิดกั้นห้ามเข้าโดยอ้างถึงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว ทางจังหวัดตรวจสอบพบว่าเป็นที่ดินป่าไม้ หลังจากนี้จะมีการรื้อถอนลวดหนามและสิ่งปิดกั้นต่างๆออกเเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อชุมชนได้ ส่วนอีกกรณีที่เอกชนเสนอขออนุญาตทำเหมืองหินบริเวณบ้านในวัง โดยมีชาวบ้านออกมาคัดค้าน ทางจังหวัดและกรรมาธิการฯได้รวบรวมเอกสารต่างๆเพื่อพิจารณาผลกระทบด้านต่างๆโดยจะมีการสอบถามและติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
ภาพข่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา