พังงา- กรรมาธิการการศึกษาฯลงพื้นที่เยี่ยมและติดตามผลกรณีครูตบเด็กนักเรียนฯ

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ กรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมและติดตามผลของคณะกรรมาธิการของสถานศึกษาแห่งหนึ่งในโรงเรียนอำเภอตะกั่วป่า กรณีที่เป็นข่าว ครูใช้ฝ่ามือตบศรีษะเด็กนักเรียนในห้องเรียน ณ ที่สำนักงานเทศบาลเมืองตะกั่วป่า โดยมี นายสันติสุข ณ ถลาง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองตะกั่วป่า คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

โดยทาง สส.ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กรรมาธิการการศึกษาฯ กล่าวว่า สาเหตุที่มาในวันนี้เพื่อติดตามผลความคืบหน้า ในการพิจารณาขั้นตอนปฏิบัติของคณะกรรมาธิการ ในเรื่องกรณีคุณครูที่ใช้มือตบไปที่ศรีษะเด็กนักเรียนขณะที่อยู่ในห้องเรียน ซึ่งมีความล่าช้าในการตั้งกรรมการการสอบสวนครูที่กระทำผิดไม่ว่าจะเป็น ความรุนแรงต่อนักเรียน หรืออะไรต่างๆ และในวันนี้ได้เดินทางมาติดตามผลของการสอบสวนข้อเท็จจริง และก็ได้ผลมติออกมาว่าคุณครูท่านนี้ได้กระทำความผิดจริง ซึ่งเป็นมติของกรรมการที่สอบสวนข้อเท็จจริง และจะต้องส่งผลต่อให้กรรมการอีกชุดหนึ่งเพื่อสอบสวนทางวินัยเพื่อกำหนดบทลงโทษ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง

ซึ่งตนเองและ พรรคประชาชน ก็จะได้ไปหากระบวนการ ที่จะปรับปรุงแก้ไข ซึ่งการตั้งกรรมการสอบมันควรต้องรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ซึ่งกรรมการที่จะสอบสวน และกำหนดบทลงโทษว่าครูที่กระทำผิดวันนี้จะผิดในลำดับความผิดสถานไหน 5 สถานตามวินัยครู แต่มันจะต้องใช้ระยะเวลา 180 วันหรือ 6 เดือน ซึ่งตนเองก็ได้ตั้งข้อสังเกต ในที่ประชุม และผู้บริหารโรงเรียนต่างๆว่ามันช้าไป เลยอยากขอความอนุเคราะห์ให้ทางเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยในการเร่งรัดเรื่องเวลา และเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องออกมาอย่างตรงไปตรงมาซึ่งตนเองและพรรคก็จะดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ซึ่งทาง นายสันติสุข ณ ถลาง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองตะกั่วป่า เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารและ คณะกรรมาธิการที่พิจารณาในเรื่องนี้ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอย่างใดแต่ก็ต้องเป็นไปตามระเบียบราชการที่ต้องดำเนินไปตามกระบวนความพิจารณาและต้องดำเนินการไปตามกฏระเบียบ ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้บริหารและเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงหลังจากที่ได้สั่งการไปยังคณะกรรมการดั่งกล่าว และได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อได้สอบสวนทางวินัย แต่ในทั้งนี้ก็ต้องนึกถึงและดูแลเด็กเป็นสำคัญและให้ทุกคนสบายใจได้ว่าในส่วนของเด็กก็ได้ประเมินและดูแลตรวจสุขภาพของเด็กด้วยส่วนในเรื่องของคุณคูรคนดั่งกล่าวก็ให้ดำเนินไปตามขั้นตอนกรรมาธิการพิจารณาเรื่องดั่งกล่าว ดั่งนั้นจึงอยากให้คุณแม่ของเด็กสบายใจว่าตนเองจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและไม่ได้เข้าข้างคุณครูอย่างแน่นอน ส่วนตนเองมีหน้าที่ที่จะกำกับดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามขั้นตอนวิธีพิจารณาต่อไป