ตชด.23 ตามสืบเครือข่ายยาบ้า จับกุมต่อเนื่องได้กว่า 200,000 เม็ด
ตชด.23 ตามสืบเครือข่ายยาบ้า จับกุมต่อเนื่องได้กว่า 200,000 เม็ด
ตามนโยบายเน้นหนักของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน โดยให้เพิ่มความเข้มงวดและเพิ่มมาตรการในการปราบปราม เพื่อมิให้มีการขนย้ายยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 น. ที่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ อ.เมือง จ.สกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร, ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร ปลัดจังหวัดสกลนคร, พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23, ผู้แทนจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ผู้แทน ปปส.ภ.4 ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) รวม 200,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สกลนคร
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการจับกุม นายอัษฎาวุธกับพวก พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 170,000 เม็ด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผล ตามสืบ จนพบว่ายังมีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีก 1 คน คือ นายธเนศพล แก้วก่อง อายุ 20 ปี จึงให้สายลับติดตามพฤติการณ์ จนเมื่อวันที่ 6 ต.ค. เวลา 15.00 น. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนด้าน จ.เลย เข้ามาพักไว้ที่บ้านเช่าของ นายธเนศพล เพื่อรอลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค ป้ายทะเบียน 8 กจ 157 กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะในการลำเลียงยา จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและแจ้ง นปส.นครพนม, เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่
จนเมื่อเวลา 23.20 น. เจ้าหน้าที่จับกุมพบรถยนต์ คัน ดังกล่าว บริเวณแยกบ้านธาตุ อ.เมือง จ.สกลนคร จึงได้สะกดรอยตามไป เมื่อไปถึงบ้านเช่าแห่งหนึ่ง พบนายธเนศพลกับนายรัฐภูมิ (ทราบชื่อภายหลัง) กำลังช่วยกันยกห่อวัตถุลงจากท้ายรถ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และเข้าตรวจสอบ พบเป็นยาบ้าจำนวน 100 มัด ประมาณ 200,000 เม็ด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจาย ในกลุ่มประชาชนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ก่อนจะนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป