01/11/2024

ยะลา-เบตง ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงน้ำป่าไหลหลากท่วมหลายพื้นที่

เบตง ฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง น้ำป่าไหลหลาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายพื้นที่ เส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง หลายจุดมีดินสไลด์ ต้นไม้ล้ม ทำกระแสไฟฟ้าขัดข้อง

 


เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ต.ค.67 ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา จนทำให้เกิดน้ำท่วมระบายไม่ทัน บางจุดเกิดน้ำป่าไหลหลาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง บางช่วงมีดินโคลนไหลลงมาจากภูเขา เกิดต้นไม้ล้มทับสายไฟ จนกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ผู้ใช้เส้นทางสัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

 
จุดแรกบริเวณบ้านมาลาเหนือ ม.9 ต.ตาเนาะแมเราะหลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านชาวบ้าน จนข้าวของได้รับความเสียหาย เกือบ 50 หลังคาเรือน ช่วงน้ำป่ามา ชาวบ้านต้องอพยพ เคลื่อนย้าย ข้าวของมาอยู่บนถนนภายในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่สูง หลังจากที่ฝนหยุดตก ปริมาณน้ำก็ลดลงอย่างรวดเร็ว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ฝ่ายปกครอง ก็รีบเข้าช่วยเหลือ เก็บกวาด ล้างพื้น เพื่อให้ชาวบ้านกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้

 
จุดที่สอง ที่บ้านกาแป๊ะฮูลู เขตเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ด่านพรมแดนเบตง ฝนตกหนัก ทำให้น้ำระบายไม่ทัน ไหลเข้าท่วมบ้านชาวบ้านที่อยู่ติดริมคลองหลายหลัง หลังน้ำลด เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง ก็นำเจ้าหน้าที่ รถน้ำ เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งเก็บกวาด ล้าง เคลื่อนย้ายข้าวของที่ได้รับความเสียหายไปทิ้ง

 
ขณะที่ถนนสาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณกิโลเมตร ที่18 ต.ตาเนาะแมราะ ได้เกิดดินสไลด์ ต้นไม้ล้มลงมาทับสายไฟ จนกระแสไฟฟ้าขัดข้อง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเบตง ต้องจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน บริเวณ กม.39 รอยต่อระหว่าง ต.อัยเยอร์เวง และ ต.แม่หวาด อ.ธารโต มีน้ำและดินโคลน ไหลลงมาเต็มพื้นถนน เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงเบตง ต้องใช้รถ เจซีบี ตักดินโคลนออก และยังมีอีกหลายจุดที่มีต้นไม้ล้ม ดินสไลด์ทับเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ก็เตรียมพร้อมทั้งกำลังพล และเครื่องมือ ต่างๆไว้แล้ว จึงสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้เส้นทางสาย410 ยะลา-เบตง รถสามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว แต่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะบางช่วง ถนนอาจลื่นจากน้ำที่เอ่อนอง ดินโคลน ที่ยังติดอยู่บนถนน รวมถึงดินที่อุ้มน้ำ อาจสไลด์ลงมาทับเส้นทางได้ทุกเวลา