ปทุมธานี วัดบัวหลวง สามโคก จัดพิธี ทำบุญตักบาตรพระร้อย พระสงฆ์รับบิณฑบาตร 120 รูป
ปทุมธานี วัดบัวหลวง สามโคก จัดพิธี ทำบุญตักบาตรพระร้อย พระสงฆ์รับบิณฑบาตร 120 รูป
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เวลา 07.00 น. ณ วัดบัวหลวง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายมานิตย์ แก้วพวง นายกเทศมนตรีตำบลเชียงรากใหญ่ให้เกียรติมาเป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส พิธีทำบุญตักบาตรพระร้อยวัดบัวหลวง ประจำปี 2567 มีพระสมุพนา ถาวรธัมฺโม เจ้าอาวาส วัดบัวหลวง สามโคกเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระภิกษุจำนวน 120 รูป จากวัดต่างๆร่วมรับบิณฑบาต พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ในเขตพื้นที ตำบลเชียงรากใหญ่และใกล้เคียงเข้าร่วมพิธีกันอย่างคึกคัก ส่วนบรรยากาศพิธีทำบุญตักบาตรพระร้อย วัดบัวหลวง ประจำปี 2567 ก่อนเริ่มพิธีได้มีศิษยานุศิษย์พี่น้องประชาชน ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มมารอใส่บาตร 2 ฝั่งถนน
ต่อมาเมื่อเวลา 07.00.นายมานิตย์ แก้วพวง นายกเทศมนตรีตำบลเชียงรากใหญ่ ประธานในพิธีได้จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย ต่อมาเริ่มพิธีตักบาตรพระร้อย วัดบัวหลวง มีพระสมุห์พนา ถาวรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบัวหลวง ได้ขึ้นรถนำขบวนรถพระพุทธ พร้อมประน้ำมนต์ ให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมทำบุญ ตักบาตรพระร้อยเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว การตักบาตรพระร้อยในปัจจุบันส่วนใหญ่จะพบเห็นในลักษณะที่ “พระสงฆ์รับบาตรอยู่ในเรือ ส่วนชาวบ้านนั่งรออยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลอง หรือบนแพ บนโป๊ะ” เป็นส่วนใหญ่ มีส่วนน้อยที่รอตักบาตรอยู่ในเรือ ประชาชนที่มาตักบาตรพระร้อยมีทั้งคนในพื้นที่ละแวกวัด คนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีที่ทราบกำหนดวันตักบาตร และคนจากจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องการสัมผัส
และมีส่วนร่วมในประเพณีตักบาตรพระร้อยทางเรือ ที่พบเห็นได้น้อยเต็มทีแล้ว และส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางคมนาคมทางบกขนสำรับคาวหวานมาเตรียมใส่บาตรที่ริมแม่น้ำ ไม่ได้ขนลงเรือมาเหมือนในสมัยก่อนเพราะหลายๆ บ้านไม่มีเรือใช้แล้ว อีกทั้งปัจจุบันมีการสร้างประตูน้ำกั้นปากคลองที่จะออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จึงไม่สะดวกต่อการนำเรือออกมา ประเพณีตักบาตรพระร้อย ชาวบ้านมาด้วยใจที่เปี่ยมศรัทธา ถึงช่วงวันออกพรรษาประจำปี ต่างเตรียมข้าวของ ทั้งอาหารคาวหวาน อาหารแห้ง พืชผักผลไม้ พระจำนวนกว่าร้อยรูปนั่งบนลำเรือล่องเลาะริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ให้ชาวบ้านได้ทำบุญใส่บาตรอย่างอิ่มอุ่น ริมน้ำเจ้าพระยาจึงเนืองแน่นด้วยผู้คนซึ่งร่วมกันสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมที่ยึดถือปฏิบัติกันมานับร้อยปีให้ดำรงอยู่ต่อไป
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน
