ปทุมธานี นายกแจ็สแถลงนโยบายหกด้านดูแลคนปทุม แจงไม่เกี่ยวกับที่ศาลตัดสินอดีตผู้บริหารและคณะติดคุกคดีทุจริต
ปทุมธานี นายกแจ็สแถลงนโยบายหกด้านดูแลคนปทุม แจงไม่เกี่ยวกับที่ศาลตัดสินอดีตผู้บริหารและคณะติดคุกคดีทุจริต
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ประชาชนเดินทางมาแสดงความยินดี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แถลงนโยบายในการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สมัยวิสามัญ สมัยที่สอง ประจำปี 2567 โดยมีคณะผู้บริหารองค์กรต่างๆ ประชาชนร่วมแสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สมัยที่ 2
ก่อนการแถลงนโยบาย บรรยากาศที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีคึกคักไปด้วยประชาชนที่นำกระเช้าและช่อดอกไม้มามอบให้ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดี พร้อมพูดคุยทักทายกับประชาชนที่มาแสดงความยินดี ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์กรณีที่ศาลทุจริตฯตัดสินลงโทษอดีตผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีแลพวก รวมถึงข้าราชการระดับสูงบริษัทได้สั่งจำคุกทั้งหมด มีอัตราการติดต่างกันแล้วแต่ความผิดโดยทั้งหมดได้ประกันตัวใช้เงินสด 500,000 ออกมาสู้คดีนั้น จะส่งผลถึง ภาพลักษณ์ขององค์กรและจะแก้ไข ปัญหาเรื่องทุจริตในองค์กรที่อาจเกิดขึ้นอย่างไร
พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กล่าวว่า ตัวผมเองมาจากข้าราชการประจำมาชั่วชีวิตจนเกษียณ ในวันแรกที่มาเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี ผมได้บอกทุกคนว่าหากผมหมดวาระไปแล้วจะต้องไม่มีใครขึ้นศาลหรือบริหารนำพาข้าราชการประจำให้ต้องถูกลงโทษหรือถูกไล่ออก ผมเห็นข้อมูลจากข่าวสารก็สลดใจที่มีอดีตนายกฯ อดีตรองนายกฯ และอดีตข้าราชการประจำที่เป็นถึงอดีตปลัดฯ ต้องถูกตัดสินมากสุดจำคุก 6 ปี 18 เดือน จากการบริหารงานแล้วถูกตัดสินในข้อหาทุจริตขอให้ข้าราชการประจำทุกท่านสบายใจได้ในการบริหารงานของผมจะไม่ทำให้พวกท่านต้องถูกออกหรือถูกดำเนินคดี เมื่อข่าวเมื่อวานถือว่าเป็นตัวอย่างและยังมีคดีอื่นตามมาอีก มีการบอกว่าผมกลั่นแกล้ง ผมจะไปกลั่นแกล้งได้อย่างไร ในเมื่อคดีนี้เกิดตั้งแต่ปี 2554 ที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัยอย่างร้ายแรง แต่ท่านยังไปทุจริตถุงยังชีวิต ผมเกษียณปี 2557
คดีนี้เกิดก่อนแล้ว หลักฐานต่างๆผมจะไปกลั่นแกล้งได้อย่างไร คุณจะทำอะไรไม่รู้แต่คดีผ่านมาเป็น 10 ปี จนมาปี 2564 คดีเพิ่งจะโผล่ออกมาต้องขอบคุณ ป.ป.ช.ที่ไม่ยอมให้คดีขาดอายุความโดยเด็จขาด ซึ่งวันนี้ก็มีคดีสำคัญที่ขาดอายุความในวันนี้ คือคดีที่ตากใบ เที่ยงคืนคืนนี้ถือว่าขาดอายุความ แต่คดีทุจริตถุงยังชีพเมื่อปี 2554 ป.ป.ช.ไม่ยอมให้ขาดอายุความ แต่คนที่โดนตัดสินผมก็ยังหนักใจว่าจะเอาอย่างไร เพราะคนที่ถูกตัดสินมีคนที่เป็นอดีตปลัด อบจ.ปทุมธานี และเป็นคณะกรรมการของโรงเรียนสามโคก เมื่อคุณเป็นคณะการการสถานศึกษามีหน้าที่กำหนดนโยบายโรงเรียนสามโคก แต่คุณมีข้อหาทุจริต รับโทษจำคุก ถ้าให้ดีเขาจะต้องมีสปิริตในการลาออกไป แต่ถ้าเขาไม่ลาออกผมก็ยอมไม่ได้ที่ให้เขาอยู่ แล้วจะตอบเด็กนักเรียนได้อย่างไรว่าเอาคนที่ทุจริตเอามาเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา
ผมให้ความสำคัญด้านการกีฬา เด็ก เยาวชน คนพิการ ผู้สูงอายุ ซึ่งเมื่อวานมีคณะกรรมการของการกีฬาจังหวัดปทุมธานีก็ถูกตัดสินจำคุกอีก สิ่งเหล่านี้ต้องมาคิดกัน หากเขาไม่ลาออก แล้วงบประมาณของ อบจ.ปทุมธานี เราจะไปทำงานร่วมกับคนที่ถูกศาลตัดสินทุจริตมันสมควรหรือไม่ เรื่องที่เกิดขึ้นผมยืนยันว่าผมไม่มีส่วนรู้เห็นเพราะว่าเหตุเกิดมากว่า 10 ปีแล้ว และยังมีอีกคดีคือทุจริตอุปกรณ์กีฬา 40 กว่าล้านบาท ผมไม่ใช่คนเรียกร้อง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่ได้เป็นคนสั่งเรียกเงินคืน แต่กรมบัญชีกลางเขาดูสำนวนนี้เขาบอกว่ามันผิดและองค์กรเสียหาย กรมบัญชีกลางทำหนังสือมาให้ อบจ.ปทุมธานีดำเนินการเรียกเงินคืนจากกลุ่มผู้ต้องหา 40 กว่าล้านบาท จากนั้นเขาก็ไปฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีฟ้องผม ว่าคำสั่งที่เราออกไปนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่่งเราเพียงทำตามคำสั่งของกรมบัญชีกลาง หากไม่ทำเราโดน 157 จะเห็นว่าเมื่อเขาฟ้องศาลปกครองให้ผมยกเลิกคำสั่งแต่ศาลยกคำร้อง ไม่มีการไปหาเรื่องกลั่นแกล้งใครโดยเด็จขาด
นอกจากนี้ยังมีน้องๆ มาเล่าให้ฟังกรณีการรื้อห้องทำงาน แต่ไม่ไม่ได้คิดอะไรเพราะผมถือว่าผมลาออกไปแล้วและจะได้กลับมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ หลังจากวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผมแพ้เลือกตั้งครั้งแรกเพียงไม่กี่วันก็มีคนส่งข่าวมาว่ามีฝ่ายผู้ชนะ มีอดีต ส.ส.สอบตก อดีต สจ. เข้ามารื้อห้องทำงานรื้อพรม ผมไม่ได้ว่าหรือตำหนิ ในสมัยแรกที่ชนะ เลือกตั้งผมไม่เข้าไปเด็จขาดไม่เคยขึ้นไปยุ่ง เพราะว่าเลือกตั้งยังไม่จบสิ้นสมบูรณ์ อย่างการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 ผมยังไม่เข้าห้องทำงานเลย เพราะต้องให้ กกต.รับรองก่อน เพื่อแถลงนโยบายเมื่อรับรองเราก็เข้ามาดูได้เลย ในส่วนที่มี ผอ.ข้าราชการประจำมาต้อนรับพาเดินดูห้องอย่างดีมารับคำสั่งต่างๆ เดี๋ยวเรามาดูกันว่าคำสั่งชอบหรือไม่ชอบ แต่จะไม่มีการเซ็นย้อนหลังให้ ใครสั่งก็รับผิดชอบกันไปก็แล้วกัน ผมถือว่าไม่รู้จักกติกาและไร้มารยาท ฝากพิจารณาด้วยกว่าพฤติกรรมอย่างนี้มีวุฒิภาวะแค่ไหน
สำหรับเรื่องน้ำท่วมผมกับนายโบลิ่ง(นายกเทศมนตรีนครรังสิต )ทำงานมาตลอด ก่อนที่จะมาเลือกตั้ง ผมได้เป็นที่ปรึกษาให้นายกฯนครรังสิต ดูเรื่องน้ำที่นครรังสิตหลายครั้ง เราต้องป้องกันให้นครรังสิตรอดจากน้ำท่วมให้ได้ เราเชิญชลประทาน ไฟฟ้า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกันผันน้ำออกซ้ายขวา ขอขอบคุณทางชลประทานที่ให้ความร่วมมืออย่างดี ปีนี้เรามั่นใจว่าปทุมรอดแน่นอน แต่หลังจากนี้ปัญหา ที่จะตามมาหลังน้ำลด เช่น โรคที่มากับน้ำ ถ้าไม่มีน้ำเหนือน้ำฝนลงมาหนัก เราก็ดูแลพื้นที่เราได้ ส่วนเครื่องสูบน้ำทั้งหมดในจังหวัดปทุมธานี อบจ. ชลประทาน ปภ. ที่เราได้ประชุมร่วมกันดังนั้นจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมโดยเด็ดขาด
ในส่วนของการแถลงนโยบาย พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี โดยยึดหลักธรรมาภิบาล และหลักวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี มาเป็นแนวทางในการบริหาร เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี 6 ด้าน ประกอบด้วย นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปการ , นโยบายด้านสังคม การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม , นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม , นโยบายด้านเศษฐกิจ และการท่องเที่ยว , นโยบายด้านสาธารณสุขและกีฬา และ นโยบายด้านการพัฒนาการเมืองและการบริหารจัดการ ด้วยนโยบายที่ได้แถลงมาทั้ง 6 ด้านนี้เป็นแนวทางในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี สืบต่อแต่นี้ไปเป็นระยะเวลา 4 ปี หวังว่าคงจะได้รับความร่วมมือร่วมใจ จากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ข้าราชการ พนักงาน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีทุกท่าน เพื่อผลักดันให้โครงการต่างๆ ภายใต้นโยบายที่ได้แถลงไว้ ให้เกิดสัมฤทธิผลและบรรลุเป้าหมายตามนโยบายเพื่อความเจริญก้าวหน้าและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีต่อไป “ปทุมธานีต้องไปต่ออย่างมีคุณภาพ NEXT ปทุมธานี”
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน