31/01/2025

พิจิตร-เมืองชาละวันมาเฟียเหิมเกริมแย่งชิงเก็บค่าเช่าแผงร้านค้างานไหลเรือไฟวัดท่าหลวงพิจิตร

3110181_0
พิจิตร-เมืองชาละวันมาเฟียเหิมเกริมแย่งชิงเก็บค่าเช่าแผงร้านค้างานไหลเรือไฟวัดท่าหลวงพิจิตร
https://youtu.be/vaXgUNz2_-I
 วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จัดงานนมัสการหลวงพ่อเพชรและสมโภชเมืองพิจิตร “ไหลเรือไฟ”ใช้งบลงทุนจัดงานมหรสพ ศิลปินคอนเสิร์ต และขบวนแห่ พร้อมทั้งพิธี “ไหลเรือไฟ”บนเวทีกลางน้ำ ทุ่มงบประมาณเกือบ 10 ล้านบาท เพื่อจัดงานหวังมีรายได้จากเงินทำบุญและเก็บค่าเช่าแผงร้านค้าเพื่อเป็นรายได้ของวัด แต่ปรากฏว่ามีรายรับ รายได้  ไม่เป็นไปตามคาด เหตุมีมาเฟียคนบ้านอยู่ข้างวัดชิงเก็บเงินค่าเช่าแผงร้านค้า ผู้จัดงานทนไม่ไหวเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยจัดการด่วน
   
 วันที่ 27 มกราคม 2568 นายอำนาจ รวยสูงเนิน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่  28/75 ถนนคลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร นำหลักฐาน ซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ให้เป็นผู้จัดงาน นมัสการหลวงพ่อเพชรและสมโภชเมืองพิจิตร “ไหลเรือไฟ”ประจำปี 2568 ซึ่งจัดงานในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 มกราคม 2568 รวมระยะเวลา 11 วัน 11 คืน โดยจัดให้มีกิจกรรมทางศาสนาทอดผ้าป่า ถวายสังฆทาน ตักไข่ชาละวันและกิจกรรมงานบุญต่างๆ รวมถึงจัดการรำถวายบูชาหลวงพ่อเพชรในพิธีเปิดงาน ซึ่งต้องใช้ผู้ร่วมขบวนแห่นับพันคนรวมถึงจัดการแสดงบนเวทีและมหรสพ ศิลปิน คอนเสิร์ต ลิเก และการละเล่นต่างๆ  ซึ่งทำเป็นเวทีกลางน้ำขนาดใหญ่ริมแม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวง พระอารามหลวง
   
รวมถึงจัดให้มีไหลเรือไฟ ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เงินอุดหนุนของทางราชการรวมถึงเงินทำบุญของญาติโยมในการจัดงานในครั้งนี้เกือบ 10 ล้านบาท  โดยให้จัดหารายได้จากการเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าซึ่งเป็นกองคาราวานของใช้ของกินร้านดังจากติ๊กต๊อกให้มาเช่าล็อค เช่าแผง เพื่อนำรายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานที่เป็นงานประเพณีแบบนี้มายาวนานหลายสิบปีแล้ว แต่ในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลอ้างตัวอ้างสิทธิ์ว่าเป็นผู้มีสิทธิ์บนถนนที่อยู่ทางเข้าวัดท่าหลวง ซึ่งเป็นที่จัดงานโดยได้มีการจัดล็อคให้ร้านค้าตั้งขายของบนถนนซึ่งเป็นถนนของทางราชการ จากนั้นก็เดินเก็บค่าเช่าล็อคค่าเช่าแผง ซึ่งเมื่อ 3-4 ปีก่อน ก็เก็บเฉพาะบริเวณหน้าบ้านของตนเอง ซึ่งทางวัดไม่อยากทะเลาะกับคนข้างวัดจึงไม่สู้รบตบมือ แทนที่คนกลุ่มนี้จะถ้อยทีถ้อยอาศัยแบบที่ว่า “วัดครึ่งหนึ่งชาวบ้านข้างวัดครึ่งหนึ่ง”แต่กลับหาเป็นเช่นนั้นไม่ ในปีนี้คนกลุ่มนี้กลับยึดถนนในเขตพื้นที่จัดงานตั้งแต่ประตูทางเข้างานไปจนถึงรั้ววัด
     
โดยเก็บเงินร้านค้าล็อคละ 3,000-10,000 บาท  ทั้งๆที่วัดเป็นคนลงทุนจัดงานใหญ่โต เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ตัวแทนคณะทำงานจัดงาน นมัสการหลวงพ่อเพชรและสมโภชเมืองพิจิตร “ไหลเรือไฟ” จึงสุดจะทนเพราะวัดขาดรายได้จากร้านค้า แต่ต้องรับภาระรายจ่ายในการจัดงานเกือบ 10 ล้านบาท  จึงสุดที่จะทนนำเรื่องเข้าร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมของที่ว่าการอำเภอเมืองพิจิตร โดยมี นายดลภาค เนตรใส นายอำเภอเมืองพิจิตร เป็นผู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ด้วยตนเอง จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อได้รับเรื่องดังกล่าวนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นก่อน หากพบว่าการเนินการที่ไม่ถูกต้องก็จะประสานงานกับฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง  ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาจะเข้าข่ายเป็นมาเฟียหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
สิทธิพจน์ จ.พิจิตร /

ข่าวที่น่าติดตาม